มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนชอบไปเที่ยวทะเลมากกว่าสถานที่อื่น แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าการไปทะเลส่งผลดีต่อตัวเราอย่างไร
ผลงานวิจัยของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกนได้ทำการเปรียบเทียบสภาพจิตใจของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเวลลิงตันที่สามารถเห็นวิวทะเลที่สวยงาม เปรียบเทียบกับผู้คนจากเมืองที่ไม่ได้ติดทะเล โดยยึดความเท่าเทียมกันในด้านสถานะทางการเงิน อายุ และอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ โดยผลวิจัยระบุว่า ทัศนียภาพของทะเลส่งผลทำให้ผู้คนมีสุขภาพจิตดียิ่งขึ้น
นักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า “การเข้าถึงพื้นที่สีฟ้า” เป็นการพิสูจน์ว่า การมองเข้าไปในพื้นที่สีฟ้าจะทำให้เรารู้สึกดียิ่งขึ้น
ดร.เมลิสซา ไวน์เบิร์ก จากสถาบันจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยดีกิน คืออีกหนึ่งคนที่ศึกษาเรื่องนี้ โดยเธอกล่าวว่าการพักผ่อนริมน้ำจะส่งผลดีต่อระดับความเครียดของเรา
ในทางวิทยาศาสตร์ ดร.เมลิสซากล่าวว่า ระดับความสุขที่เหมาะสมคือ 80% แต่ปัจจัยแวดล้อมรอบตัวจะทำให้ % เหล่านี้เพิ่มขึ้นหรือลดลง แต่มันก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าการไปเที่ยวทะเลจะส่งผลต่ออารมณ์ชั่วคราวแต่เป็นมันการตอบสนองให้บางสิ่งเกิดขึ้น เช่น การมองโลกในแง่ดี และมันจะช่วยฟื้นฟูความสุขของเราให้กับคืนมาสู่ในระดับที่เหมาะสม
“ตอนนี้ให้คุณลองนึกถึงการนำสนองเข้าไปสู่พื้นที่โล่งกว้างที่คุณชอบ เช่น ชายหาด ที่คุณสามารถกวาดสายตาออกไปได้ไกลจนสุดขอบฟ้า นั่นช่วยให้กระบวนการทางสมองของคุณกลับสู่โหมดปกติ นอกจากนั้นมันยังช่วยสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย”
โดยสรุปแล้ว การไปนั่งริมหาดเพื่อชมทะเลจะช่วยลดภาวะซึมเศร้า ทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ช่วยลดความเครียด และเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อโลกของคุณ
แล้วการไปเที่ยวป่าที่เต็มไปด้วยสีเขียวล่ะ
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกนพบว่า มันไม่ส่งผลอย่างเดียวกันกับไปทะเล ดร.เมลิสซากล่าวว่า การได้มองเห็นพื้นที่ทางธรรมชาติยังคงส่งผลดี แต่สำหรับป่าสีเขียวก็ยังมีมุมมองที่จำกัด ซึ่งสู้มุมมองของทะเลไม่ได้
แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ความชอบของคุณว่าชอบไปทะเลหรือชอบไปเที่ยวป่าไม้ น้ำตก หรือภูเขามากกว่ากัน เพราะคุณเท่านั้นที่รู้ว่าการไปเที่ยวที่ไหน จะช่วยพักผ่อนสมองของคุณได้ดีที่สุด
ที่มา : stuff | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ