ร้านเสริมสวยในดูไบกำลังกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดตัวโปรแกรม “ทำเล็บไมโครชิป” โดยมีการฝังชิป NFC ขนาดจิ๋วลงบนเล็บของลูกค้า และมันสามารถใช้แทนนามบัตรของตัวเองได้
ก่อนหน้านี้เราอาจได้ยินเรื่องการฝังชิปเอาไว้ใต้ผิวหนัง ชิปดังกล่าวจะเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ของตัวเองเอาไว้เหมือนกับบัตรประชาชน และทำให้พวกเขาไม่ต้องพกเงินสดติดตัวอีกต่อไป โดยสามารถใช้ชิปที่ติดตัวของพวกเขาสแกนจ่ายเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ แต่มีหลายคนที่ไม่ต้องการฝังชิปลงไปในร่างกาย ดังนั้นการเก็บมันไว้บนเล็บจึงเป็นทางออกที่ดีเช่นกัน
Lanour Beauty Lounge ร้านเสริมสวยในดูไบจึงได้ริเริ่มไอเดียดังกล่าวขึ้น โดยการเอาชิปฝังลงไปบนเล็บและเคลือบด้วยสารพิเศษเพื่อป้องกันการหลุดลอก โดยคุณสามารถติดตั้งข้อมูลทุกอย่างลงไปบนชิปนี้ได้ ตั้งแต่ข้อมูลทางราชการรวมไปถึงข้อมูลบนโซเชียลมีเดียของคุณเอง ช่องทางการติดต่อและหมายเลขโทรศัพท์
จากข้อมูลของ Lanour Beauty Lounge ระบุว่า พวกเขาใช้ชิปแบบ NFC (Near Field Communication) ซึ่งเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายด้วยคลื่นความถี่ในระยะใกล้ ที่เชื่อมต่อตัวคุณกับอุปกรณ์อย่างเช่นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต บัตรเครดิต และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้
นัวร์ มาคาเรม ซีอีโอของร้านเสริมสวยดังกล่าวระบุว่า การหาชิปที่มีขนาดเล็กพอที่จะติดตั้งบนเล็บมือมนุษย์เป็นสิ่งท้าทาย และในขณะนี้พวกเขากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนชิปให้มากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ความจุของชิปยังมีน้อยไป เธอหวังว่าโลกในอนาคตต่อจากนี้จะเป็นการใช้ Smart Nails เพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้
“เราติดตั้งข้อมูลทุกอย่างที่คุณต้องการได้ เช่น ชื่อ เบอร์มือถือ บัญชีโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์” มาคาเรมกล่าว “คุณอาจจะลืมนามบัตร แต่คุณไม่มีวันลืมเล็บมือของคุณ”
Lanour Beauty Lounge ได้คิดค้นไอเดีย Smart Nails ขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยนำเทคโนโลยีด้านความงามเข้ามาช่วย และมันก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในดูไบ รวมถึงคลิปที่ถูกโพสต์ในอินสตาแกรมก็ร้านก็ดึงดูดความสนใจจากต่างประเทศเช่นกัน
ไม่ต้องกังวลว่ามันจะออกมาไม่สวย เพราะมันสามารถปกปิดได้ด้วยการทาเล็บในรูปแบบต่าง ๆ
มาคาเรมกล่าวว่า เธอได้ให้บริการทำเล็บสุดไฮเทคให้กับลูกค้าไปแล้วมากกว่า 500 คน โดยสนนราคาประมาณ 250 ดีร์ฮามหรือประมาณ 2,200 บาท
และในกรณีที่คุณกลัวว่าคนร้ายที่ได้ชิปนี้ไปจะสามารถรับรู้ข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ล่ะก็ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์แบบ Passive ซึ่งหมายความว่า ข้อมูลของชิปจะสามารถอ่านได้เมื่ออยู่ในระยะใกล้ (น้อยกว่า 1 นิ้ว) กับอุปกรณ์ที่รองรับ NFC เช่น สมาร์ตโฟน
ต่อไปในอนาคต เราอาจจะได้เห็นการใช้ชิปเหล่านี้กับร่างกายของเราในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น และมันจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของมนุษย์ในโลกอนาคตที่เราไม่มีวันจินตนาการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้ต่อไป
ที่มา : Khaleej Times | odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ