คุณอาจไม่รู้เลยว่า สิ่งของมีค่าภายในรถหรือแม้แต่รถยนต์ของคุณเอง ก็สามารถถูกขโมยไปได้อย่างง่ายดายเพียงเวลาแค่ 20 วินาทีเท่านั้น อ้างอิงจากอดีตหัวขโมยรายหนึ่ง เขามีวิธีการที่จะเข้าไปในรถของคุณได้อย่างรวดเร็ว และหยิบสิ่งของรวมถึงขับรถออกไปได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ วิธีป้องกันรถของคุณให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และสิ่งที่หัวขโมยรายนี้ได้แนะนำให้คุณรู้ มีดังต่อไปนี้
1. ใส่ของมีค่าไว้ฝากระโปรงหลังรถ
หัวขโมยมีเวลาน้อยมากในการทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ และพวกเขาแทบไม่เคยเปิดฝากระโปรงหลังรถเลย พวกเขาจะเลือกขโมยสิ่งที่ดูมีค่าที่เห็นอยู่ภายในรถ แต่ไม่ใช่ท้ายรถ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คุณควรเก็บของมีค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเอกสาร กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้า หรือแม้แต่กระเป๋าถือ เอาไว้ท้ายรถจะปลอดภัยกว่า
2. จอดที่ๆ มีแสงสว่างอยู่รอบๆ เสมอ
เห็นได้ชัดว่า การจอดรถในที่มืดยิ่งมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในการถูกขโมย อดีตหัวขโมยรายนี้ได้กล่าวว่า เขากับทีมของเขาไม่เคยเข้าไปโจรกรรมรถที่จอดอยู่กลางแจ้ง มีแสงสว่าง แต่พวกเขาจะเลือกรถที่จอดอยู่ในที่มืดเป็นอันดับแรก ดังนั้นการจอดรถในที่ๆ มีแสงสว่างนอกจากจะช่วยให้คนอื่นเห็นรถคุณได้ง่ายขึ้น ก็ยังช่วยให้หัวขโมยไม่ตัดสินใจเลือกรถคุณเป็นเป้าหมายอีกด้วย
3. เอาฟรอนต์วิทยุออก
มีหัวขโมยบางประเภทที่ต้องการขโมยเครื่องเสียงในรถของคุณ ดังนั้นการเอาฟรอนต์วิทยุออกและซ่อนมันไว้ที่ไหนสักแห่ง จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้อย่างมาก เพราะพวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะพังรถของคุณเข้าไปเพื่อควานหาว่าฟรอนต์ที่พวกเขาไม่รู้จักว่าอยู่ตรงไหน และอาจกลับไปมือเปล่าอีกด้วย
4. ซ่อนของมีค่าเอาไว้ใต้เบาะ
ถ้าคุณต้องการวางกระเป๋าถือหรือสิ่งของมีค่าไว้ในรถ อย่าวางในที่ๆ สามารถมองเห็นได้จากภายนอกรถเด็ดขาด และถ้าคุณไม่อยากใส่เอาไว้ท้ายรถ การซ่อนเอาไว้ใต้เบาะก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กัน ขโมยส่วนใหญ่จะมองเข้าไปในรถก่อนที่จะตัดสินใจงัดรถหรือทุบกระจก ถ้าพวกเขาไม่เจอสิ่งของวางอยู่ให้เห็นชัดๆ ล่ะก็ พวกเขาก็แทบจะไม่งัดรถเหล่านี้เลย
5. ใช้กระจกสีหรือฟิล์มมืด
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้ขโมยมองเห็นสิ่งของภายในรถได้ง่ายก็คือการติดกระจกสีหรือติดฟิล์มที่มืดหน่อย ซึ่งถือว่าช่วยลดความเสี่ยงได้ดีทีเดียว แต่คุณควรศึกษาและเข้าใจเงื่อนไขของการติดตั้งกระจกสีหรือฟิล์มมืดเสียก่อน
6. อย่าทิ้งเอกสารสำคัญไว้ในรถยนต์
ถ้าขโมยเกิดงัดรถของคุณเข้าไปแล้วไม่พบอะไรนอกจากเอกสารภายในกระเป๋า ซึ่งอาจเป็นชื่อและที่อยู่ของตัวคุณเอง พวกเขาอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการไปหาคุณในช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน ดังนั้นอย่าทิ้งเอกสารสำคัญเอาไว้ในรถเด็ดขาด
7. บอกให้ขโมยรู้ว่ารถคุณมีระบบกันขโมย
ขโมยส่วนใหญ่มักจะไม่เสี่ยงกับรถที่มีสัญญาณกันขโมย และพวกเขาจะหลีกเลี่ยงเวลาที่เจอรถที่ติดสติกเกอร์เตือนแบบนี้ และถึงแม้ว่ารถยนต์ของคุณจะไม่ได้ติดสัญญาณกันขโมยจริง แต่สติกเกอร์เหล่านี้ก็สามารถช่วยหลอกพวกหัวขโมยได้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือ หัวขโมยมืออาชีพจะสามารถตัดสายไฟแบตเตอร์รีที่เชื่อมกับสัญญาณกันขโมยได้ไม่ยาก
8. รถยนต์บางยี่ห้อเป็นที่ต้องการมากกว่ายี่ห้ออื่น
รถยนต์บางยี่ห้อถือเป็นเป้าหมายของการขโมยเป็นอันดับต้นๆ ยกตัวอย่างเช่นในปี 2016 มีรถยนต์ โตโยต้า แคมรี ถูกขโมยมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาถึง 16,732 ครั้ง ส่วนในประเทศไทยเอง โตโยต้าก็ถือเป็นที่ต้องการของหัวขโมยมากที่สุดเช่นกัน ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องเปลี่ยนยี่ห้อรถที่คุณขับอยู่ แต่มันจะช่วยให้คุณต้องระมัดระวังมากขึ้นหากรถยนต์ของคุณเป็นที่ต้องการของหัวขโมยเหล่านี้
9. ติด GPS ติดตามรถของคุณ
หัวขโมยมืออาชีพบางคนมักจะติดตามชีวิตประจำวันคุณและหาโอกาสเหมาะๆ ในการแอบเข้ามาในบ้านคุณและขโมยรถไป สิ่งที่จะช่วยให้คุณติดตามรถที่หายไปได้ก็คือการติดตั้ง GPS ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยรถ ไม่ว่าจะเป็นยี่้ห้อรถยนต์ที่คุณใช้ หรือการที่ต้องไปจอดในสถานที่เสี่ยงบ่อยครั้ง
10. อย่าเก็บกุญแจสำรองไว้ในรถของคุณ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะเก็บกุญแจสำรองเอาไว้ในรถ ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของหน้ารถ ระหว่างที่วางแขน หรือข้างประตูรถ ซึ่งจากที่คุณอาจโดนขโมยแค่สิ่งของภายในรถ แต่การเก็บกุญแจสำรองเอาไว้อาจทำให้รถของคุณหายตามไปด้วย
11. ติดตั้งไฟเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวนอกบ้าน
หลายๆ คนคงรู้จักกับไฟเซ็นเซอร์ที่จะส่องสว่างเวลาที่จับความเคลื่อนไหวได้ ซึ่งไฟเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการป้องกันขโมย และคุณควรจะติดตั้งอยู่เหนือรถของคุณที่จอดอยู่ ไฟเหล่านี้จะช่วยให้หัวขโมยต้องลังเลกับการเข้ามาขโมยรถคุณ และบางคนอาจตกใจหนีไปเลยก็ได้
12. อย่าเก็บเงินไว้ในรถคุณ
มีหลายคนชอบเก็บเงินสำรองเอาไว้ในรถ แต่นั่นเหมือนเป็นการเชิญชวนให้หัวขโมยงัดรถเข้าไปขโมยเงินเหล่านี้ ดังนั้นหากคุณต้องการเก็บเงินสำรองเอาไว้ในรถ จงหาที่ซ่อนที่ปลอดภัย พ้นสายตาจากคนที่มองเข้ามาในรถของคุณ ซึ่งจะช่วยให้รถของคุณไม่โดนงัดหรือโดนทุบนั่นเอง
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา