มีคนสงสัย การหั่นมะเขือเทศทำให้เกิดระเบิดนิวเคลียร์ได้หรือไม่ จนได้คำตอบจากนักวิทย์

ชาวเน็ตคนหนึ่งจากเว็บไซต์ตั้งคำถามยอดฮิตอย่าง Quora ได้ตัดสินใจถามคำถามอันแปลกประหลาดที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้

“ถ้าผมกำลังทำอาหารและผมได้หั่นมะเขือเทศ มีโอกาสที่มีดจะแยกอะตอมในขณะที่กำลังหั่นเข้าไปหั่นลงไปในมะเขือเทศ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดนิวเคลียร์หรือไม่ ?”

ต้องอธิบายกันก่อนเล็กน้อยว่า “พลังงานนิวเคลียร์” สามารถเกิดขึ้นได้จากการแตกตัวของนิวเคลียสธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม พลูโทเทียม เมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน ส่วนนิวเคลียสก็คือใจกลางอะตอมของธาตุทุกชนิด ที่ประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน

นั่นจึงไม่น่าแปลกที่จะมีคนสงสัยว่า ถ้าเราผ่าอะตอมเพื่อให้มันแตกตัวออก จะทำให้เกิดพลังงานนิวเคลียร์จนระเบิดตูมตามได้ขนาดนั้นเลยหรือ ?

จนกระทั่งมีนักวิทยาศาสตร์นามว่า ร็อบ อเล็กซิก ได้สละเวลามาตอบคำถามที่น่าสนใจนี้ โดยคำตอบของเขาก็คือ “ไม่มีทาง” โดยมีสาเหตุดังนี้

1. มีดที่คมที่สุดในครัวของคุณก็ยังมีความทื่อมากเกินกว่าที่จะผ่าไปยังความกว้างของอะตอมได้เลย

2. แม้ว่าคุณจะมี ซูเปอร์-มีด ที่มีส่วนคมหนาเท่ากับ 1 อะตอม มันก็ไม่สามารถ “แยก” อะตอมได้ มันแค่ผลักออกไปด้านข้างแค่นั้น

3. แม้ว่าคุณจะมี ซูเปอร์-มีด ที่่สามารถผ่าอะตอมได้ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมะเขือเทศโดยพื้นฐานแล้วประกอบไปด้วย คาร์บอน, ออกซิเจน และไฮโดรเจน การแบ่งธาตุเบาเหล่านี้ ผลลัพธ์ก็คือจะไม่เกิดพลังงานใด ๆ (ตรงกันข้ามกับการแตกตัวของธาตุหนักอย่างยูเรเนียม)

4. แม้ว่าการแยกอะตอมของคาร์บอนจะปลดปล่อยพลังงานเท่ากับยูเรเนียม มันก็ยังเป็นเพียงแค่ 1 อะตอม พลังงานนิวเคลียร์คือปฏิกิริยาลูกโซ่จากการแตกตัวของอะตอมจำนวนมากที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ซึ่งแต่ละอะตอมจะปลอดปล่อยพลังงานเล็กน้อยออกมา และใช้พลังงานนั้นทำให้อะตอมอื่นแตกตัวต่อไป มันจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณทำซ้ำ 1,024 หรือ 1,025 ครั้ง เหมือนกับระเบิด แต่เพียงแค่ 1 อะตอมน่ะหรือ ? นั่นไม่มากพอที่จะต้องกังวลใด ๆ

ผมว่าสิ่งที่ควรต้องระวังเกี่ยวกับการหั่นมะเขือเทศด้วยมีดที่ซูเปอร์คมแบบนั้นก็คือ นิ้วโป้งของคุณเองนะ

เรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตได้มาคอมเมนต์กันอย่างสนุกสนาน และนี่คือตัวอย่างของคอมเมนต์ชาวเน็ตส่วนหนึ่ง

“ค่อยยังชั่วหน่อย”

“ตอนนี้ฉันก็กลับไปลับมีดของฉันได้แล้ว”

“แต่ถ้าผมมีมะเขือเทศยูเรเนียมล่ะ ??”

สรุปแล้วเอาเป็นว่า เราก็สามารถกินมะเขือเทศต่อไปได้อย่างสะบายใจ (ก็แน่นอนอยู่แล้ว) แต่สิ่งที่สอนเราได้จากเรื่องนี้ก็คือ อย่าเพิ่งไปคิดว่าคำถามของใครจะงี่เง่าหรือไม่ เพราะเราอาจได้สาระจากคำตอบแทนก็เป็นได้

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ