ความจริงทางภูมิศาสตร์ที่น่าเหลือเชื่อเหล่านี้ ไม่น่าเบื่อเหมือนในโรงเรียนแน่นอน

ถ้าพูดถึงคำว่า “ภูมิศาสตร์” หลายๆ คนคงต้องส่ายหน้ากันเป็นแถวๆ เพราะนอกจากการเรียนการสอนที่แสนน่าเบื่อในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัยแล้ว การได้มาเรียนรู้เรื่องแผนที่ ภูมิประเทศ ขอบเขต พรมแดน ที่พบเจอบนโลกออนไลน์ ก็ไม่ได้ทำให้เราอยากเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้สักเท่าไหร่ แต่วันนี้เ่พชรมายาขอพาทุกท่านมาเรียนรู้ความจริงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์บนโลกใบนี้ แน่นอนว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าที่คุณคิดและไม่น่าเบื่อเหมือนในโรงเรียนแน่นอน

1. มีสนามฟุตบอลที่ทำให้นักเตะเล่นคนละซีกโลกได้ในสนามเดียวกันพร้อมกัน

สนามฟุตบอล Estadio Milton Correa ในประเทศบราซิล หรือที่รู้จักกันสในชื่อ Zerao ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นศูนย์สูตรพอดี และนั่นทำให้นักเตะของทั้ง 2 ทีมที่มาลงแข่งกันในสนามฟุตบอลนี้ จะได้เตะฟุตบอลบนพื้นที่ 2 ซีกโลก คือ ซีกโลกทางเหนือและซีกโลกทางใต้พร้อมๆ กัน

2. จุดนีโม สถานที่ๆ ใกล้นักบินอวกาศมากกว่ามนุษย์บนโลก

ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีจุดๆ หนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากแผ่นดินมากที่สุดในโลก โดยแผ่นดินที่อยู่ใกล้ที่สุดจะอยู่ห่างออกไปถึง 2,688 กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้ถูกตั้งชื่อว่า “ขั้วโลกที่เข้าไม่ถึง” ซึ่งชื่อ “นีโม” ถูกตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ “กัปตันนีโม” ผู้บังคับการเรือดำน้ำจากนวนิยายเรื่อง “ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์” หรือ “20,000 Leagues Under the Sea”

ถึงแม้มันอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินมากที่สุด แต่มนุษย์ที่อยู่ใกล้จุดนี้ที่สุดกลับเป็นนักบินอวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ที่อยู่ในวงโคจรของโลกที่ห่างออกไปราว 415 กิโลเมตร

3. คุณสามารถอยู่บนพื้นที่ 4 รัฐได้พร้อมๆ กัน

ประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด แต่ละรัฐก็มีพื้นที่่ใหญ่มหาศาล แต่คุณคนเดียวสามารถยืนอยู่บนพื้นที่ของ 4 รัฐได้พร้อมๆ กัน นั่นคือ ยูทาห์, แอริโซนา, โคโลราโด และนิวเม็กซิโก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถูกเรียกว่า Four Corners หรือ “4 มุม” โดยเป็นจุดที่พื้นที่ทั้ง 4 รัฐมาบรรจบกันพอดี

4. ธารน้ำแข็งเป็นพื้นที่ๆ เก็บกักน้ำจืดเอาไว้มากที่สุดในโลก

มีพื้นที่ราว 10% บนโลกใบนี้ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง พื้นที่ธารน้ำแข็งกินพื้นที่ทั้งหมดราว 15 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าประเทศจีนและอเมริกาที่มีพื้นที่ราว 9.5 และ 9.8 ตารางกิโลเมตร และ 10% ของธารน้ำแข็งเหล่านี้คือ “น้ำจืด” ซึ่งคิดเป็น 75% ของน้ำจืดทั้งหมดบนโลกนี้

และถ้าเราตัดสินใจละลายเฉพาะน้ำจืดเหล่านี้ทิ้งไป ทะเลสาบไบคาลที่ตั้งอยู่ในประเทศรัสเซีย จะกลายเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดบนโลกนี้แทน โดยคิด 20% ของน้ำจืดทั้งหมดบนโลก

5. รั้วดิงโก ในออสเตรเลีย เคยยาวกว่ากำแพงเมืองจีน

ย้อนกลับไปในปี 1880 การทำฟาร์แกะในออสเตรเลียที่เป็นระบบเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ต้องประสบปัญหากับการรุกรานของ “หมาป่าดิงโก” ที่มาไล่จับแกะกินอยู่บ่อยครั้ง เกษตรกรในออสเตรเลียจึงเริ่มคิดค้นการสร้าง “รั้วดิงโก” ขึ้นมาเพื่อป้องกันแกะจากหมาป่าเหล่านี้

ในช่วงแรก รั้วดิงโกมีความยาวมากถึง 8,614 กิโลเมตร ซึ่งยาวกว่ากำแพงเมืองจีนที่ยาว 6,350 กิโลเมตรอยู่พอสมควร แต่เนื่องจากค่าดูแลรักษาที่มีมากเกินไป รั้วแห่งนี้จึงถูกตัดทอนลดระยะทางที่ไม่จำเป็นออก จนในปัจจุบัน รั้วดิงโกมีความยาวถึง 5,614 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยาวที่สุดในโลก

6. ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในขั้วโลกใต้

ทะเลทรายไม่เกี่ยวว่าจะต้องอยู่ในสภาพอากาศร้อนและเป็นทรายเสมอไป ในความเป็นจริงแล้ว ทะเลทรายก็คือ “บริเวณแห้งแล้ง” ที่แทบจะไม่มีน้ำ ไม่มีฝน (น้อยกว่า 250 มิลลิเมตรต่อปี) ไม่มีหิมะ ไม่เอื้อต่อพืชพันธุ์ใดๆ ดังนั้น บริเวณพื้นที่ๆ หนาวเย็นก็สามารถเป็นทะเลทรายได้เช่นเดียวกัน

และนั่นทำให้พื้นที่ทะเลทรายในแอนตาร์ติกาหรือบริเวณขั้วโลกใต้ กลายเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่กว่า 13.9 ล้านตารางกิโลเมตร ส่วนอันดับสองก็คือทะเลทรายในแถบอาร์กติกหรือขั้วโลกเหนือ และอันดับที่สามก็คือทะเลทรายซาฮาราในแอฟริกานั่นเอง

7. เกาะไก่ฟ้า เปลี่ยนประเทศทุกๆ 6 เดือน

เกาะไก่ฟ้า หรือ Pheasant Island ตั้งอยู่ในแม่น้ำบิดาสเซา มีเจ้าของเป็นประเทศฝรั่งเศสและสเปนทั้งคู่ แต่การจะมีเจ้าของพร้อมๆ กัน มันอาจยากที่ใครจะต้องดูแลรับผิดชอบเกาะแห่งนี้ ดังนั้นทั้ง 2 ประเทศจึงแบ่งกันเป็นเจ้าของเกาะปีละ 6 เดือนสลับกัน ซึ่งเมื่อเกาะนี้อยู่ในความดูแลของประเทศไหน ก็จะต้องยึดกฏของประเทศนั้น และที่สำคัญเกาะแห่งนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัย และไม่เปิดให้เป็นพื้นที่สาธารณะ

8. ทะเลเดดซีอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล

หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อทะเลเดดซีกันมาบ้าง เพราะนี่คือทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก จนถือว่าเป็นทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก เค็มกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า ด้วยความเค็มระดับนี้ทำให้ทะเลเดดซีเป็นทะเลที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย ยกเว้นแต่แบคทีเรียและเห็ดราบางชนิด

และสิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือทะเลเดดซี อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 417.5 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ๆ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลกอีกแห่งด้วย

9. มีเกาะที่อยู่ในทะเลสาบ ที่อยู่ในเกาะ และอยู่ในทะเลสาบที่อยู่ในเกาะ

แค่อ่านก็งงแล้ว เรามาลองทำความเข้าใจกันทีละนิดดีกว่า ในประเทศฟิลิปปินส์ มีเกาะแห่งหนึ่งที่มีทะเลสาบที่ชื่อว่า Taal Lake ซึ่งทะสาบนี้ยังมีเกาะอยู่ข้างในนั้น และในเกาะนั้นก็มีทะเลสาบอีก และในทะเลสาบก็ยังมีเกาะเล็กๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเกาะซ้อนทะเลสาบซ้อนเกาะจนงงกันเลยทีเดียว

10. ถ้ำ 2 แห่งที่ใหญ่จนมีสภาพภูมิอากาศเป็นของตัวเอง

เอ๋อหวังตง คือถ้ำขนาดใหญ่ในประเทศจีนที่มีความยาวถึง 42 กิโลเมตร มันใหญ่ขนาดที่มีระบบภูมิอากาศเป็นของตัวเอง ภายในถ้ำมีการก่อตัวของยิปซัม และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย มีป่า มีแม่น้ำอยู่ภายใน ชาวบ้านมักใช้การสังเกตสภาพอากาศภายในถ้ำ ถ้าหากมีหมอกเกิดขึ้นภายในถ้ำ แสดงว่าฝนกำลังจะตกข้างนอก

เซินด่อง คือถ้ำที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศเวียดนาม ถึงแม้ถ้ำแห่งนี้จะมีความยาวแค่ 9 กิโลเมตร แต่โถงใหญ่ภายในถ้ำแห่งนี้มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร กว้าง 200 เมตรและสูงกว่า 150 เมตร ถ้ำแห่งนี้มีระบบภูมิอากาศเป็นของตัวเองเช่นกัน มีป่า แม่น้ำ หินงอกหินย้อย และกระแสน้ำที่กัดเซาะอยู่เบื้องล่าง

11. เนินทราย 7 สีในที่เดียวกัน

ในประเทศมอริเชียส คุณสามารถไปชมเนินทรายแปลกๆ ที่มีการผสมผสานอยู่ถึง 7 สีด้วยกัน ได้แก่สี แดง น้ำตาล เขียว น้ำเงิน เหลือง ม่วงอมแดง และม่วงอมน้ำเงิน ซึ่งทรายเหล่านี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติในแต่ละชั้นดิน และถ้าคุณกำทรายที่นี่ขึ้นมาในมือ ก็จะเห็นถึงความแตกต่างนี้แยกกันได้อย่างชัดเจน

12. ฟาร์มปศุสัตว์ที่ใหญ่กว่าประเทศ

แอนนา ครีก คือชื่อของฟาร์มปศุสัตว์ในประเทศออสเตรเลีย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ฟาร์มแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1863 และมันมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 23,677 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าประเทศหลายๆ ประเทศบนโลกนี้ หรือถ้าเทียบให้เห็นภาพก็คือใหญ่กว่ากรุงเทพเราถึง 15 เท่า

13. เกาะพี่น้องที่เวลาต่างกัน 23 ชั่วโมง

หมู่เกาะไดออมีด เป็นหมู่เกาะทางตอนกลางของช่องแคบเบริง ประกอบด้วยเกาะ “ไดออมีดเล็ก” ของอเมริกา และเกาะ “ไดออมีดใหญ่” ของรัสเซีย ทั้ง 2 เกาะห่างกันราว 3 กม. ซึ่งในบางครั้ง ชาวบ้านมักเรียกเกาะไดออมีดเล็กว่า “เกาะเมื่อวาน” ส่วนเกาะไดออมีดใหญ่ถูกเรียกว่า “เกาะพรุ่งนี้” เพราะทั้ง 2 เกาะถูกแบ่งด้วยเส้นวันที่สากล ทำให้เกาะไดออมีดใหญ่ มีเวลาเร็วกว่าเกาะไดออมีดเล็ก 21 ชั่วโมง

นั่นแสดงว่า ถ้าเวลาบนเกาะไดอามีดเล็กของอเมริกาคือ 6 โมงเช้าของวันเสาร์ เวลาบนเกาะไดอามีดใหญ่ของรัสเซียจะเป็น ตี 3 เช้าวันอาทิตย์นั่นเอง

14. มหาสมุทรแปซิฟิกกว้างใหญ่มาก จนมีจุดตรงข้ามคนละฝั่งโลก

ถ้าเราเจาะทะลุประเทศไทยลงไปได้ จุดตรงข้ามคนละฝั่งโลกของประเทศไทยจะอยู่ตรงไหน ? หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอเมริกา แต่จริงๆ แล้วมันอยู่แถบทวีปอเมริกาใต้ บริเวณชายฝั่งของประเทศเปรู แน่นอนว่าการอยู่คนละฝั่งโลกมันไกลกันมาก และไม่น่าจะมีสถานที่อะไรที่กว้างใหญ่พอจะครอบคลุมจุดตรงข้ามคนละฝั่งโลกได้

แต่สำหรับ “มหาสมุทรแปซิฟิก” นั้นเป็นไปได้ เพราะมันกว้างใหญ่มากพอ ซึ่งถ้าเราเจาะทะลุบริเวณอ่าวไทยลงไป ก็จะไปเจออีกพื้นที่ชายฝั่งของประเทศเปรู รวมไปถึงอ่าวตังเกี๋ย ในประเทศเวียดนาม คุณก็จะไปเจอฝั่งตรงข้ามที่เป็นบริเวณพื้นที่ชายฝั่งของประเทศชิลีได้พอดิบพอดี

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา