รู้หรือไม่ ทำไมเราถึงรู้สึกหนาวสั่นตลอดเวลา และวิธีแก้คืออะไร

ในขณะที่อากาศของบ้านเราช่างร้อนระอุ แต่สำหรับใครบางคนอาจจะรู้สึกหนาวสั่นจนอยากจะกลับไปซุกผ้าห่มอุ่น ๆ ที่บ้าน หรือคนที่ขนลุกตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่กำลังอ่านบทความนี้ เอาละวันนี้เราจะบอกสาเหตุของการเกิดสภาวะไม่ปกตินี้และวิธีแก้ไขมาฝากกัน

ต่อมไทรอยด์ของคุณอาจทำงานได้ไม่ดีนัก

ไฮโปไทรอยด์คือสภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำการผลิตฮอโมนได้ไม่มากพอและส่งผลทำให้เกิดอาการแพ้ความหนาวเย็น ฮอโมนไทรอยด์ช่วยควบคุมการเผาพลาญและอุณหภูมิ เมื่อเราขาดสิ่งนี้ เราจะรู้สึกหนาวตลอดเวลารวมทั้งอาการเหนื่อยล้าและอัตรการเต้นของหัวใจที่ต่ำ

วิธีการแก้ไข: ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจสอบว่าคุณขาดไทรอยด์ฮอโมนที่จำเป็นต่อร่างกายหรือไม่

คุณอาจจะดื่มน้ำไม่มากพอก็เป็นได้

น้ำคือตัวช่วยในการเผาพลาญในร่างกาย ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารและนำไปใช้เป็นพลังงานและความร้อนในร่างกายเรา ถ้าคุณขาดน้ำ ผลที่ตามมาคือความร้อนและพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายคุณ

วิธีการแก้ไข: อย่าลืมดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อวัน ถ้าคุณไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าและอยากได้รสชาติเพิ่ม ลองเสริมการดื่มน้ำด้วยของเพิ่มความอร่อยเช่นมะนาว มินท์ โหระพา แตงกว่าและสิ่งอื่น ๆ ที่คุณชอบ

บางทีคุณอาจจะเป็นโรคโลหิตจาง

โรคโลหิตจางคือสภาวะที่คุณจะรู้สึกเย็นที่มือและเท้า ซึ่งเกิดเมื่อร่างกายของคุณขาดเม็ดเลือดแดงที่นำพาออกซิเจนส่งไปให้อวัยวะและเนื้อเยื่อในร่างกาย มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ การเกิดประจำเดือนหรือการเสียเลือดรวมทั้งปัญหาการขาดธาตุเหล็กเพียงพอหรือโลหิตจางจากการขาดวิตามิน อาการจากภาวะโลหิตจางรวมถึงผิวหนังซีด อัตราการเต้นหัวใจสูง เหนื่อยล้าและปวดหัว

วิธีการแก้ไข: ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นโรคโลหิตจาง ควรไปพบแพทย์โดยทันทีและจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสอบโดยด่วน

คุณอาจนอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับคือส่วนสำคัญที่สุดในการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกหนาวสั่นบางทีเหตุผลนั้นมันอาจจะง่ายมาก

วิธีการแก้ไข: ลองพิจารณาถึงตารางการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ และปรับการพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเติมเต็มพลังงานในร่างกายของคุณ

นี้อาจเป็นปรากฎการณ์เรย์โนลด์

ปรากฎการณ์เรย์โนลด์คือสภาวะที่มือและเท้าของคุณเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือน้ำเงิน มันเป็นอาการที่หายากที่ส่งผลต่อเส้นเลือดแดง ลดการไหลของเลือดไปสู่นิ้วมือและเท้าส่งผลให้รู้สึกหนาวเย็น ซึ่งเมื่อเกิดสภาวะนี้นาน ๆ เมื่อร่างกายกลับเป็นปกติจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากบริเวณที่เกิดอาการ

วิธีการแก้ไข: ไปพบแพทย์สภาวะเรย์โนลด์อาจเกิดได้จากอุณหภูมิที่หนาวเย็น ความเครียด การสัมผัสสารเคมีบางอย่างและปัจจัยอื่น ๆ การรักษาด้วยยา ผ่าตัดและเปลี่ยนการใช้ชีวิตอาจช่วยกำจัดการเกิดผลของอาการนี้ได้

ในภาพด้านบน ทางขวามือคือคนที่มีอาการเรย์โนลด์

บางทีคุณอาจจะผอมเกินไป

เมื่อคุณน้ำหนักน้อยเกินไปจนไม่มีชั้นไขมันที่เพียงพอในการปกป้องคุณจากความหนาวเย็น หรือคุณอาจจะลดอาหารลงจนไม่มีพลังงานเพียงพอในร่าง ทั้งหมดนี้อาจส่งผลให้การเผาพลาญในร่างกายของคุณต่ำจนทำให้อุณหภูมิในร่างกายไม่ปกติ

วิธีการแก้ไข: เข้าใจหลักการกินอย่างมีสุขภาพและสมดุลที่ดีให้เหมาะสมกับวัยและสุขภาพของตัวคุณเอง

คุณอาจมีการไหลเวียนโลหิตที่ต่ำ

โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันส่งผลให้การส่งเม็ดเลือดแดงไปยังอวัยวะและเนื้อเนื่องในร่างกายล้มเหลว ทำให้เรารู้สึกหนาวเย็น ส่งผลให้เกิดการสะสมจุลินทรีย์ในหลอดเลือดจนทำให้เส้นเลือดตีบตันได้ ส่งผลในการส่งเลือดไปยังมือและเท้าน้อยลงจนทำให้เกิดอาการชา

วิธีการแก้ไข: ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและทางแก้ของโรคหลอดเลือดอแดงส่วนปลายอุดตัน รวมทั้งการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคุณเช่น การงดสูบบุหรี่เป็นต้น รวมทั้งพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัดในบางกรณี

เอาละคุณอาจเริ่มเข้าใจแล้วว่าอาการหนาวเย็นของคุณอาจเกิดได้จากหลายกรณีรวมทั้งโรคที่เกิดในร่างกายคุณได้ การพบแพทย์คือทางเลือกที่ดีที่สุด รวมทั้งเลือกที่จะดูแลตัวเองเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นยิ่งขึ้น เรามาดูคำแนะนำที่จะทำให้ร่างกายคุณอบอุ่นขึ้นได้ยังไงกันดีกว่า:

1. พยายามทำให้ร่างกายคุณอบอุ่นเสมอด้วยการสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม เลือกเนื้อผ้าที่ทำให้คุณอบอุ่นและสบาย

2. ดื่มเครื่องดื่มที่สร้างความอบอุ่นให้คุณเสมอเช่นชาหรือช็อกโกแลตร้อน

3. เลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านในอากาศที่หนาวเย็นจนกว่าคุณจะรู้สาเหตุของอาการของคุณ

ความจริงน่ารู้: ผู้หญิงจะรู้สึกหนาวเย็นกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงจะรู้สึกหนาวเย็นมากกว่าผู้ชาย และอุณหภูมิห้องที่สบายสำหรับผู้หญิงคือ 25 องศาเซลเซียส ในขณะที่ผู้ชายจะอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส โดยมีคำอธิบายในเรื่องนี้ว่ามาจากฮอโมนเพศหญิงมีผลทำให้เลือดเข้มข้นขึ้น ทำให้การไหลเวียนเลือดในร่างกายช้าลง ส่งผลให้อัตราการเผาพลาญของผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชาย ทำให้เผาผลาญแคลอรี่น้อยเกินกว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่นได้

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ