ปริศนาการหายไปของเรือและเครื่องบิน ในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เป็นตำนานที่ถูกพูดถึงมาช้านาน บางคนเชื่อว่าเป็นการถูกลักพาตัวไปของมนุษย์ต่างดาว บางคนเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเป็นเสมือนประตูมิติที่เชื่อมต่อไปยังอีกโลกหนึ่ง หรือบางคนก็เชื่อว่าเกิดจากสนามแม่เหล็กบริเวณนี้แปรปรวนบ่อย แต่สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดได้สักที
แต่เมื่อช่วงฤดูร้อนในปี 2014 ได้เกิดหลุมขนาดใหญ่ในไซบีเรียโดยไม่ปรากฏที่มาแน่ชัดว่า มันเกิดจากอุกกาบาต การทดลองขีปนาวุธของรัสเซีย หรือแม้แต่กระทั่งเป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตนอกโลกก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหลุมแห่งนี้ สามารถใช้อธิบายปริศนาลึกลับที่เกิดในเบอร์มิวดามาช้านานได้เช่นกัน
อิกอร์ เยลต์ซอฟ นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียกล่าวว่า “อีกหนึ่งทฤษฎีที่สามารถใช้อธิบายการหายไปของเรือและเครื่องบินบริเวณสามเหลี่ยมอาถรรพ์แห่งนี้ นั่นก็คือการเกิดปฏิกิริยาของก๊าซมีเทนนั่นเอง”
อธิบายง่ายๆ เมื่อก๊าซมีเทนแทรกซึมผ่านเปลือกโลกขึ้นมาอย่างช้าๆ โดยมาเจอกับกลุ่มก้อน “มีเทนไฮเดรต” หรือภาษาไทยเรียกว่า น้ำแข็งไฟ ที่ถูกขังอยู่บริเวณใต้พื้นที่เกิดหลุมยักษ์และพื้นที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ผลที่ตามมาคือ บริเวณปล่องหลุมยักษ์ จะเกิดการระเบิดของก๊าซที่ส่งผลให้พื้นดินด้านบนยุบตัว แต่หากเป็นบริเวณมหาสมุทร ก๊าซจะขึ้นไปผสมกับน้ำ ส่งผลการการพยุงตัวของน้ำลดลง เรือที่อยู่บริเวณนั้นก็จะจมลงมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยมาก่อน
ส่วนสาเหตุที่เครื่องบินตก ก็คือการเกิดก๊าซมีเทนปริมาณมหาศาล จะส่งผลให้บรรยากาศในบริเวณนั้นปั่นป่วนอย่างรุนแรง และเป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตกได้เช่นกัน
และนี่ก็เป็นอีกทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถใช้อธิบายสาเหตุของตำนานสามเหลี่ยมอาถรรพ์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี แล้วคุณล่ะ เชื่อในทฤษฎีนี้หรือไม่ หรือคิดว่ามีทฤษฎีไหนที่น่าเชื่อถือกว่านี้บ้าง ลองมาแชร์กัน
ที่มา : express | เรียบเรียงโดย เพชรมายา