ไม่ว่าสาวๆ ประเทศไหนก็ตาม มักจะมีท่าโพสต์ถ่ายรูปที่คล้ายๆ กัน สาวๆ บางคนมีท่ายากเยอะ แต่บางคนก็มีท่าเดียวหน้าเดียวจริงๆ และถ้าคุณกำลังประสบปัญหาไม่มีไอเดียในการโพสต์ท่าถ่ายรูปล่ะก็ เพชรมายาขอแนะนำ 10 ท่าโพสต์ยอดฮิตของสาวๆ ญี่ปุ่น ที่รับรองว่า คุณจะมีท่าโพสต์ถ่ายรูปเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน
1. ถ้าชูสองนิ้ว
ท่าสิ้นคิดที่ใครๆ ก็ทำ เพียงแต่คุณรู้จักปรับองศาของนิ้วให้เปลี่ยนไปเล็กน้อย มันก็จะดูฮิปขึ้นเยอะเลย
2. ท่าปวดฟัน
ท่ายอดนิยมบนปกแม็กกาซีน ท่านี้จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูเรียวขึ้นได้อีกด้วย
3. ท่ากรงเล็บแมว
เป็นท่าที่เริ่มมาจากป๊อบไอคอนสาวญี่ปุ่น จนเป็นท่าฮิตติดลมบน ขนาดเลดี้ กาก้า ยังเอามาใช้ ท่านี้จะช่วยเพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ให้กับสาวๆ อีกด้วย
4. ท่าปิดตา
เป็นท่าที่ฮิตมาจาก บล็อคเกอร์คนดังที่สอนแต่งหน้า ซึ่งท่านี้ คนดูจะโฟกัสไปที่ตาที่เหลืออยู่อีกข้าง (ถ้าตาคุณสวยนะ) และเล็บที่คุณเพิ่งทำมาสวยๆ เรียกได้ว่า โชว์ 2 เด้งเลยทีเดียว
5. ท่าบีบคาง
เป็นท่าฮิตมาจากเน็ตไอดอลคนดัง เอไลซ่า อิเคดะ เทพแห่งการเซลฟี่ เพียงแค่บีบแก้มหรือคางบริเวณด้านข้างริมฝีปากเบาๆ ท่านี้จะช่วยเน้นโชว์ปาก สำหรับคนที่มีปากสวย
6. ท่าจิกปาก
ญี่ปุ่นเรียกว่าท่า “ฮามุ ฮามุ” เป็นการกัดจิกริมฝีปากล่าง ข้างใดข้างหนึ่งเบาๆ หรือใช้การเม้มปาก ท่านี้เป็นท่ายอดฮิตในหมู่เด็กสาว และสามารถเรียกคะแนนนิยมจากหนุ่มๆ ได้อีกมากมาย
7. ท่าดูดน้ำ
ท่าที่สมบูรณ์คือ คุณต้องดื่มน้ำด้วยหลอด จากแก้วน้ำร้านกาแฟหรือร้านน้ำยี่ห้อดัง ถ้าจะให้ดีคือ ตาของคุณอาจมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่กล้อง จะช่วยเพิ่มความฮิปได้อีกมากโข
8. ท่าหยิกแก้ม
เหมาะสำหรับสาวที่มีแก้มเป็นอาวุธ หรือแก้มป่อง น่าหยิก น่าหอมนั่นเอง ท่านี้ สาวคนไหนที่มีเนื้อแก้มเยอะยิ่งได้เปรียบ
9. ท่าปิดปาก
ท่าที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่มั่นใจในริมฝีปาก หรือรอยยิ้มของตัวเอง คิดว่าตัวเองปากไม่สวย ยิ้มไม่สวย ท่านี้ช่วยคุณได้ นอกจากนี้ ท่าปิดปาก ยังช่วยเสริมให้ส่วนตาของคุณเด่นขึ้นมาแทนด้วย
10. ท่าเก๊กสวย
เป็นท่าที่ทำมือเหมือนปืน เอามารองไว้ใต้คาง ถือเป็นท่าสิ้นคิดอีกท่าหนึ่ง แต่ถ้าในกรณีที่ผู้หญิงทำ จะน่ารักกว่าผู้ชายทำมาก เพราะถ้าผู้ชายทำ จะเหมือนว่า ไอ้นี่ขี้เก๊กไปโดยปริยาย
ส่วนคำแนะนำสุดท้ายคือ คุณไม่จำเป็นต้องโพสต์ท่าเดียว ท่าเดิมบ่อยๆ แต่ให้โพสต์สลับกันไปมาเรื่อยๆ เพื่อนๆ ของเราจะได้ไม่เบื่อกับหน้าเดิมๆ มุมเดิมๆ ที่ขึ้นไปหน้าฟีดของเขาตลอดเวลานั่นเอง
ที่มา : rocketnews24 | เรียบเรียงโดย เพชรมายา