โลกกลมจริงเหรือเปล่า ? เชื่อว่าผู้คนเกือบร้อยทั้งร้อยต้องตอบว่า “ใช่” อย่างแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีผู้คนบางกลุ่มที่ยังเชื่อว่า โลกของเราไม่ได้กลม แต่มันแบนราบเหมือนกับจาน และสิ่งที่เรารับรู้มาจาก NASA ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ถึงแม้ความเชื่อเหล่านี้จะมีมาตั้งแต่สมัยหลายพันปีมาแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าในศตวรรษที่ 21 นี้ก็ยังมีผู้ที่เชื่อว่าโลกแบนอยู่ จนถูกจัดตั้งเป็นชุมชนโลกแบนขึ้น และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมทฤษฎีสุดแปลกประหลาดของผู้ที่เชื่อว่าโลกมันแบนด้วยคำอธิบายเหล่านี้
1. โลกแบนเหมือนแผ่นดิสก์
เริ่มต้นกันด้วยทฤษฎีโลกแบน พวกเขาไม่เชื่อว่าโลกจะมีลักษณะเป็นวัตถุทรงกลม แต่จะมีลักษณะแบนเหมือนเป็นจานหรือแผ่นดิสก์ แน่นอนว่าแผนที่ของพวกเขาก็จะแตกต่างกันออกไป ความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่สมัยหลายพันปีมาแล้ว ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์จะประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ดวงดาวที่แท้จริงเป็นทรงกลม
2. โลกกลม เป็นทฤษฎีสมคบคิด เพื่อเหตุผลทางศาสนา
แม้ว่าจะมีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่า ศาสนาไม่เคยระบุถึงรูปทรงของโลกแต่อย่างใด แต่ชาวโลกแบนบางคนเชื่อว่า นาซ่าและนักทฤษฎีสมคบคิดคนอื่น ๆ ได้โกหกชาวโลกด้วยการทำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้พวกเราเชื่อว่าโลกกลม ด้วยเหตุผลคือเป็นการทำลายความเชื่อทางศาสนา ว่าแต่โลกกลมแล้วจะไปทำลายความเชื่อทางศาสนาอย่างไรล่ะ ?
เอริค ดูเบย์ หนึ่งในหนังทฤษฎีสมคบคิดกล่าวว่า “ถ้าโลกเป็นเพียงแค่ดาวดวงหนึ่งในหลาย ๆ พันล้านดวงในจักรวาล ที่โคจรอยู่รอบดาวดวงอื่น ๆ แนวคิดเรื่องพระเจ้่าเป็นผู้สร้างโลกเพื่อให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ก็จะดูไม่น่าเชื่อถือไปทันที” แน่นอนว่าวิทยาศาสตร์กับความเชื่อเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันมาตลอดหลายพันปี
3. แรงโน้มถ่วงเป็นภาพลวงตา
เป็นไปได้หรือไม่ที่ เซอร์ ไอแซค นิวตัน ผู้คิดค้นทฤษฎีแรงโน้มถ่วงจะเป็นเรื่องเหลวไหล ? แน่นอนว่ามันใช่สำหรับชาวโลกแบน ว่าแต่ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงไปเกี่ยวกับอะไรกับทฤษฎีโลกแบน ?
ชาวโลกแบนเชื่อว่า วัตถุไม่ได้พุ่งลงไปข้างล่างตามทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตันแต่อย่างใด แต่โลกต่างหากที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นข้างบนเรื่อย ๆ โดยพลังงานลึกลับที่เรียกว่า พลังงานมืด (Dark Energy) ซึ่งเป็นพลังงานในสมมุติฐานที่แผ่อยู่ทั่วไปในอวกาศและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราการขยายตัวของเอกภพ
4. นาซ่า เป็นเรื่องหลอกลวง
ไม่ใช่เรื่องโลกกลมหรือแบนเท่านั้น แต่ชาวโลกแบนเชื่อว่าทั้งหมดที่เกี่ยวกับนาซ่าเป็นเรื่องหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็น นีล อาร์มสตรอง ผู้เหยียบดวงจันทร์ หรือนักวิทยาศาสตร์เป็นพัน ๆ คนทั่วโลก ที่ทำงานให้กับนาซ่า รถโรเวอร์ดาวอังคาร การเดินทางไปอวกาศ ทุกอย่างเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นในสายตาของชาวโลกแบน ทุกอย่างภายใต้ร่มเงาของนาซ่าคือส่วนหนึ่งของเกมที่ซับซ้อน เพื่อปกปิดความจริงจากชาวโลก
5. มีกำแพงน้ำแข็งสูง 150 ฟุตอยู่ที่ขอบโลก
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ถ้าโลกแบนจริง ๆ แล้วทำไมถึงไม่มีใครตกขอบโลก แล้วโลกจะมีลักษณะแบนแบบไหนกันแน่ ? โชคดีที่ชาวโลกแบนมีคำตอบสำหรับคำถามนี้ เพราะโลกเราจริง ๆ แล้วอยู่ในแอนตาร์กติกา แล้วแอนตาร์กติกาก็มีกำแพงน้ำแข็งที่สูงถึง 150 ฟุตล้อมรอบอยู่ที่ขอบโลกอีกที
ฟังดูเจ๋งใช่หรือเปล่า ? แต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะเพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามปีนข้ามกำแพงออกไปจากขอบโลกได้ ทางนาซ่าจึงจัดพนักงานรักษาความปลอดภัยเอาไว้คุ้มกันกำแพงเหล่านี้ เรียกได้ว่าจินตนาการไปยิ่งกว่าในภาพยนตร์ไซไฟเสียอีก
6. โลกเป็นเหมือนเครื่องบิน ไม่ใช่ดาวเคราะห์
ชาวโลกแบนเชื่อว่า โลกเป็นเหมือนศูนย์กลางของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวกำลังเคลื่อนที่อยู่รอบตัวเรา ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ล้วนมีขนาดเล็กที่อยู่ห่างกันเพียง 32 ไมล์ และอยู่ห่างขึ้นไปราว 3,000 ไมล์ ส่วนดวงดาวก็หมุนตามเข็มนาฬิกา โดยอยู่ห่างไปเพียง 3,100 ไมล์เท่านั้น
เอริค ดูเบย์ ได้อ้างว่า ทฤษฎีนี้สามารถพิสูจน์ได้จากการถ่ายภาพแบบ Time-lapse ซึ่งเขากล่าวว่า “การถ่ายภาพแบบ Time-lapse พิสูจน์ให้เราเห็นว่าโลกยังคงเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีทุกสิ่งบนท้องฟ้าหมุนไปเรื่อย ๆ”
7. เส้นขอบฟ้าเป็นเส้นตรงเป๊ะ
คุณเคยเห็นเส้นขอบฟ้าแนวโค้งจากภาพถ่ายของนาซ่าหรือไม่ ? มันคือเรื่องโกหกสำหรับชาวโลกแบน เพราะพวกเขาเชื่อว่าภาพถ่ายที่ทำให้เราเห็นเส้นขอบฟ้าแบบโค้งนั้น ผ่านการตัดต่อภาพเพื่อนำมาหลอกลวงชาวโลก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเส้นขอบฟ้าควรจะเป็นเส้นตรงเป๊ะ
8. ถ้าโลกกลม เครื่องบินจะต้องบินออกไปอวกาศ
ชาวโลกแบนเชื่อว่า ถ้าโลกกลม เครื่องบินจะต้องบินเอาหัวหันลงไปหาพื้นตลอดเวลาเพื่อให้โค้งไปตามขอบโลก หรือถ้านักบินหันหัวตรงไปเรื่อย ๆ เครื่องบินก็จะพุ่งออกไปสู่อวกาศ มากกว่าที่จะโค้งออกไปรอบโลก และนั่นเป็นเหตุผลที่โลกควรจะมีรูปทรงแบนมากกว่ากลม
9. ดาวดวงอื่นก็แบน แต่อาจเป็นเพียงแค่ทฤษฎีสมคบคิด
ถ้าคุณเป็นชาวโลกแบนล่ะก็ คุณจะไม่เชื่อภาพถ่ายที่ทางนาซ่าเปิดเผยให้ดูแน่นอน และดาวพฤหัสก็ไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ชาวโลกแบนหลายคนเชื่อว่าดาวดวงอื่น ๆ มีอยู่จริง แต่มันก็มีลักษณะที่แบนเหมือนกับโลกเรานี่แหละ แต่ก็มีชาวโลกแบนอีกหลายคนที่เชื่อว่า ในเมื่อภาพถ่ายของนาซ่าเป็นเรื่องโกหก ดาวดวงอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องโกหกเช่นเดียวกัน
10. ดาวเทียมไม่มีอยู่จริง
อีกหนึ่งความเชื่อของชาวโลกแบนก็คือ ไม่มีดาวเทียมอยู่จริง ทุกอย่างเป็นแค่เพียงการตัดต่อภาพ ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงจะมีดาวเทียมเป็นพัน ๆ ดวงโคจรอยู่รอบโลกก็ตาม แต่พวกเขาเลือกที่จะเชื่อว่ามันเป็นเพราะ CGI มากกว่า ส่วนคำอธิบายเรื่องสัญญาณวิทยุ โทรทัศน์ หรือ GPS ยังไม่มีคำอธิบายจากชาวโลกแบนออกมาให้เห็น
11. ป่าไม่ใช่ของจริง เราแค่คิดว่ามันเป็นของจริง
ทฤษฎีนี้เรียกว่าบ้าบอสุด ๆ โดยชุมชนโลกแบนได้เปิดเผยทฤษฎีสุดแปลกประหลาดในปี 2017 นี้เอง โดยพวกเขากล่าวว่า ไม่มีป่าอยู่บนโลก แล้วต้นไม้ที่เราเห็นมันคืออะไรล่ะ? ต้นไม้ที่เราเห็นก็ไม่ใช่ต้นไม้ มันเป็นเหมือนกับพุ่มไม้ขนาดใหญ่ แต่ต้นไม้ที่แท้จริงจะมีขนาดใหญ่มากเหมือนกับที่ Devils Tower ในรัฐไวโอมิง
คนที่เชื่อว่าโลกกลมอาจนิยามสิ่งเหล่านี้ด้วยคำที่แตกต่างกัน เช่น ภูเขา หินผา เนินหิน แต่สำหรับชาวโลกแบนเชื่อว่ามันคือ “ต้นไม้” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรบนโลกที่ก่อตัวมาจากลาวาหรือการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หุบเขา ทะเลทราย ทั้งหมดเป็นแค่ส่วนที่หลงเหลือของต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกทำลายจากพลังงานที่ไม่สามารถระบุได้เมื่อหลายพันปีก่อน
12. ทฤษฎี Zetetic – อะไรก็เป็นไปได้ ถ้าเพียงแค่คุณเชื่อ
ซามูเอล เบอร์ลีย์ โรวโบแธม ได้อธิบายในหนังสือ Zetetic Astronomy: Earth Not a Globe เอาไว้ว่า คำตอบนั้นง่ายมาก “สำหรับชาวโลกแบน ดาวเคราะห์ของเราดูเหมือนและรู้สึกได้ว่าแบน” ซึ่งการสอนของทฤษฎี Zetetic นั้นก็คือ “การเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง” อะไร ๆ ก็จะง่ายไปหมด ถ้าคุณไม่เห็นส่วนโค้งของโลก นั่นแปลว่าไม่มีส่วนโค้ง และถ้าใครรู้สึกว่าเดินแล้วเป็นเส้นตรง โลกก็ต้องแบน ไม่ต้องมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น
ที่มา : ranker | เรียบเรียงโดย เพชรมายา