15 ปรากฏการณ์ประหลาด ที่ยังคงลึกลับมาจนถึงทุกวันนี้

บนโลกเราใบนี้มีปรากฏการณ์แปลกๆ ลึกลับเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีทั้งที่อธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ และอีกหลายปรากฏการณ์ก็ยังคงลึกลับมาจนทุกวันนี้ และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมปรากฏการณ์เหล่านี้กัน

1. โฟมลึกลับ

คืนวันหนึ่งในประเทศจีนเมื่อปี 2013 จู่ๆ ก็มีสิ่งแปลกๆ ที่มีลักษณะคล้ายโฟมที่มีกลิ่นเหม็นทะลักขึ้นมาบริเวณรอยแตกกลางถนนแห่งหนึ่งที่มีขนาดเพียง 1 เซนติเมตรเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานมันก็หดกลับลงไปในรอยแยกขนาดเล็กช่องเดียวกันนี้

มีผู้คนมากมายพยายามอธิบายถึงปรากฏการณ์ประหลาดนี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ ส่วนทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และประกาศว่ามันเป็นโฟมที่รั่วไหลมาจากสถานีรถไฟใต้ดินบริเวณใกล้เคียง แต่มีหลายคนที่ไม่เชื่อคำประกาศนี้เนื่องจากมันฟังดูไม่มีเหตุผลเพียงพอ

2. ดวงตาแห่งซาฮาร่า

ดวงตาแห่งซาฮาร่า หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Richat Structure เป็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนผืนทรายในทะเลทรายซาฮาร่า โดยมันมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่กว้างใหญ่ถึง 40 กิโลเมตร ซึ่งครั้งแรกที่ถูกค้นพบ นักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันเกิดจากชนของอุกาบาตขนาดใหญ่

หลังจากการศึกษาปรากฏการณ์ประหลาดนี้มานาน นักธรณีวิทยาหลายคนได้สรุปว่ามันน่าจะเกิดจากการกัดเซาะแนวหินตามธรรมชาติมานานหลายร้อยล้านปี แต่สิ่งที่ยังคงสร้างความประหลาดใจอยู่ก็คือ ทำไมมันถึงมีระยะที่พอดิบพอดีจนออกมาเป็นรูปวงกลมได้เป๊ะขนาดนี้

3. รอยแยกดำ

รอยแยกดำ (Black Crack) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ ว่ากันว่าถนน White Rim Trail ซึ่งเป็นที่ตั้งของรอยแยกแห่งนี้ เคยเป็นส้นทางที่ถูกใช้โดยกลุ่มคาวบอยและคนเหมือง จนกระทั่งในปี 1918 มันจึงกลายเป็นเส้นทางของกลุ่มพ่อค้าและกองคาราวาน และในทศวรรษที่ 1950 รอยแยกดังกล่าวก็ถูกทำให้กว้างขึ้นไปอีกโดยกลุ่มคนเหมือง

4. ชายหาดเรืองแสง

ชายหาดในฮ่องกงแห่งนี้ดูเป็นประกายเรืองแสงสวยงาม โดยเกิดจากสัตว์เซลล์เดียวที่ชื่อ Noctiluca Scintillans หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sea Sparkle สิ่งมีชีวิตนี้จะกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร และถูกกินจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จากนั้นมันกับแพลงตอนก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสจากฟาร์มเพิ่มสูงขึ้น และด้วยสาเหตุที่มันเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า จึงทำให้มีสารพิษสะสมในห่วงโซ่อาหารเป็นจำนวนมาก แอมโมเนียในช่องว่างของเซลล์ของ Noctiluca จะมีสูง สร้างความระคายเคืองแก่ปลา ทำให้ชาวประมงไม่สามารถหาปลาได้ตามชายฝั่ง

5. เทือกเขาสายรุ้ง

เทือกเขาที่มีสีสันสวยงามราวกับภาพวาดนี้มีชื่อว่า เขาสายรุ้งตันเซี๋ย เป็นแนวเขาที่มีลวดลายเป็นริ้วสีธรรมชาติ ประกอบไปด้วยหินทรายและแร่ธาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อ 24 ล้านปีก่อน ลม และ ฝนใช้เวลานานนับพันๆปี กัดเซาะแนวเขาจนเกิดเป็นภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลและมีสีสันสวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2010

6. ป่าต้นไม้คด

มองทีแรกคุณอาจคิดว่านี่คือป่าเวทมนตร์ในเรื่องแฮร์รี พอตเตอร์ แต่นี่คือสถานที่ๆ มีอยู่จริง โดยต้นสนเหล่านี้ถูกปลูกเอาไว้ตั้งแต่ในปี 1930 โดยมีทั้งหมดประมาณ 400 ต้นที่มีลักษณะคดงอเหมือนๆ กันไปทางทิศเหนือ ปรากฏการณ์ประหลาดนี้ยังคงไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมต้นไม้ที่นี่ถึงมีลักษณะโค้งงอเช่นนี้

7. น้ำตกเลือด

ปรากฏการณ์แปลกๆ นี้เกิดขึ้นในทวีปแอนตาร์กติกาที่ขาวโพลน น้ำตกเลือดแห่งนี้ถูกพบในปี 1911 โดย กริฟฟิธ เทย์เลอร์ นักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่ามันน่าจะเกิดจากสาหร่ายในน้ำ แต่นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังได้พิสูจน์แล้วว่า สีแดงนั้นเกิดจากเหล็กออกซิไดซ์ รวมทั้งอาจจะเป็นเศษซากส่วนที่เหลือจากทะเลสาบน้ำเค็มอายุ 5 ล้านปี

8. ลาวาสีน้ำเงิน

นี่คือความเจ๋งของภูเขาไฟ Ijen Volcano ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีลาวาเป็นสีน้ำเงินไม่เหมือนกับภูเขาไฟอื่นใดในโลก โดยสีน้ำเงินที่สว่างสดใสนี้เกิดจากกำมะถันที่ถูกเผาไหม้ด้วยความร้อนที่สูงถึง 360 องศาเซลเซียส ซึ่งภูเขาไฟ Ijen แห่งนี้เป็นเจ้าของสถิติภูเขาไฟที่มีกรดกำมะถันมากที่สุดในโลกอีกด้วย

9. หินที่มีชีวิต

ถึงจะถูกเรียกว่าแบบนั้นแต่จริงๆ แล้วมันคือสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อว่า Pyura Chilensis โดยเป็นสัตว์จำพวกเพรียงที่ดูภายนอกเหมือนกับก้อนหินทุกประการ แต่หากคุณลองผ่าลงไปก็จะพบความสยองขวัญที่อยู่ข้างในแบบในภาพนี้ แต่เห็นแบบนี้มันถือเป็นอาหารอันโอชะของชาวชิลีและชาวเปรูอีกด้วย

10. น้ำตกใต้น้ำ

น้ำตกใต้น้ำอาจฟังดูขัดกับกฏฟิสิกส์อย่างไม่น่าเป็นไปได้ นั่นเพราะน้ำตกใต้น้ำที่อยู่บริเวณเกาะมอริเชียสนี้ เป็นภาพลวงตาที่ไม่ได้เกิดจากน้ำตกจริงแต่อย่างใด ซึ่งแท้จริงแล้วมันเกิดจากทรายจากชายหาดที่ถูกกระแสน้ำกวาดออกไปโดยกระแสน้ำในมหาสมุทร แต่ถึงแม้มันจะไม่ใช่น้ำตกใต้น้ำจริงๆ แต่มันก็ดูเจ๋งแบบไม่มีที่ไหนเหมือนมาก่อน

11. หลุมน้ำแข็งยักษ์

หลุมน้ำแข็งยักษ์ในแอนตาร์กติกาปรากฏขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง โดยนักวิทยาศาสตร์ต้องประหลาดใจอย่างมาก เพราะขอบหลุมด้านนอกกินพื้นที่เกือบ 77,700 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมันถูกพบโดยหุ่นยนต์สำรวจที่ทำงานอยู่ภายใต้พื้นน้ำแข็งใต้ทะเล อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติ (National Snow and Ice Data Center) ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Polynya” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์หลุมยุบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และคาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับสภาวะโลกร้อนด้วย

12. ฝนเลือด

ในปี 2001 ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย โดยจู่ๆ ก็มีฝนสีแดงตกลงมาใส่เสื้อผ้าทุกคนจนกลายเป็นสีชมพู ซึ่งมีรายงานว่าฝนเลือดนี้ตกไปทั่วกินเวลานานถึง 10 วัน ในช่วงแรกเชื่อกันว่าฝนมีสีเช่นนั้นเนื่องจากผลพวงจากเหตุสะเก็ดดาวระเบิดกลางอากาศ แต่หลังจากการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ จึงสรุปได้ว่า ฝนมีสีเนื่องจากสปอร์ในอากาศจากสาหร่ายสีเขียวชนิดหนึ่งจากสกุล Trentepohlia แต่ภายหลังได้มีข้อถกเถียงว่า อนุภาคมีสีนั้นเป็นเซลล์จากต่างดาวที่มีลักษณะการเจริญเติบโตแบบพิเศษ

13. เสียงฮัมแห่งทาออส

เสียงความถี่ต่ำแปลกๆ ชวนขนลุกเริ่มต้นดังขึ้นในเมืองทาออส ทางตอนเหนือของนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1993 จนชาวบ้านเริ่มร้องเรียนว่าพวกเขานอนไม่หลับจากเสียงประหลาดเหล่านี้ ต่อมาเสียงฮัมลึกลับนี้ก็เริ่มปรากฏขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก มีผู้คนจำนวนมากที่สามารถบันทึกเสียงลึกลับนี้ได้ โดยมันมักจะดังมาจากท้องฟ้าและไม่สามารถหาต้นทางของเสียงได้ จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีใครที่สามารถไขปริศนาเสียงลึกลับนี้ได้เลย

14. รุ้งขาว

รุ้งขาวถือเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากมาก โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเกิดจากหยดน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 0.05 มิลลิเมตร จนทำให้เกิดเป็นวงแหวนสีขาวสวยงามบนท้องฟ้า สำหรับนักเดินเรือมักเรียกรุ้งขาวนี้ว่า สุนัขทะเล (Sea Dogs)

15. กุหลาบทะเลทราย

กุหลาบทะเลทรายนี้เป็นการก่อตัวจากมาจากแร่ยิปซั่มหรือแบไรต์ รวมกับเม็ดทรายจำนวนมากเข้าด้วยกัน โดยเฉลี่ยแล้วกุหลาบทะเลทรายจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 1.3 ซม. ถึง 10 ซม. ดอกที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบจะอยู่ที่ 99 ซม. และมีความสูง 99 ซม. และหนักถึง 454 กิโลกรัม

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา