4 ปริศนาเกมนักสืบ ที่แม้แต่นักสืบตัวจริงยังตอบไม่ได้

หากคุณชื่นชอบเล่นเกมปริศนาลับสมองหรือเกมนับสืบล่ะก็ วันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาเล่นเกมปริศนานักสืบมาให้ได้ขบคิดกันสักหน่อย ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็ลองใช้ภาพประกอบที่ให้มา แล้วใช้สมองของคุณไขปริศนาเหล่านี้กันได้เลย

 

1. คดีลักทรัพย์ริมทะเลสาบ

 

ณ วันหนึ่งที่ร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูร้อน นักสืบคนหนึ่งกำลังนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินริมฝั่งทะเลสาบที่เต็มไปด้วยผู้คน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้น ตามด้วยเสียงร้องไห้

“เกิดอะไรขึ้นครับ” เขาถามเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังสะอึกสะอื้น “ใจเย็นๆ นะ แล้วค่อยๆ เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง”

“ฮือออ… คุณจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง” เด็กสาวพูดทั้งน้ำตา “คุณไม่รู้หรอกว่าสร้อยข้อมือของฉันมันมีค่ากับฉันมากแค่ไหน ฮือๆๆ”

หลังจากใจเย็นลง เด็กสาวก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันมาพักผ่อนที่นี่ทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน ฉันนอนอาบแดดอยู่แล้วก็ถอดสร้อยข้อมือเอาไว้ข้างๆ บนหนังสือของฉัน หลังจากนั้นฉันก็เผลอหลับไป”

“เมื่อฉันตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่า สร้อยข้อมือของฉันหายไปแล้ว ฮือๆ” เด็กสาวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

ภายในที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยอื่นๆ อยู่เลย นอกจากรอยเท้าของเด็กสาวคนเดียวเท่านั้นบนพื้นทรายที่อยู่รอบๆ ส่วนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด ต่างก็อ้างว่าพวกเขาไม่รู้ไม่เห็นว่าใครเอาสร้อยของเธอไป

ตอนนี้เหลือผู้ต้องสงสัยไม่กี่คนที่น่าจะเป็นหัวขโมย นักสืบเริ่มมองเข้าไปในกลุ่มผู้ต้องสงสัยหลายคนและเขาก็ทราบได้ทันทีว่าใครคือคนร้ายที่เอาสร้อยข้อมือไป

แล้วคุณล่ะ ทราบหรือไม่ว่าใครคือคนร้ายที่เอาสร้อยข้อมือของเด็กสาวไปกันแน่ ?

 

2. คดีคนร้ายหลบหนีริมฝั่งแม่น้ำ

 

เป็นอีกหนึ่งวันที่มีอากาศร้อนอีกเช่นกัน นักสืบนามว่า วิลเลียม และผู้ช่วยของเขา ไมค์ กำลังออกตามไล่ล่าอาชญากรรายหนึ่ง รอยเท้าของเขาปรากฏอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำที่มีมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและลึกมาก

ทันใดนั้นเอง นักสืบและผู้ช่วยของเขาก็พบกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจึงเดินเข้าไปถามว่า “เรากำลังมองหาผู้ชายที่อายุพอๆ กับพวกคุณ เขาต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งแถวนี้ พวกคุณเห็นเขาบ้างหรือเปล่า?”

หนึ่งในกลุ่มนักว่ายน้ำกล่าวว่า “นั่นไง! เขาอยู่ที่อีกฟากของแม่น้ำ เขาเพิ่งวิ่งผ่านพวกเราไป แล้วก็กระโดดลงน้ำและว่ายไปที่อีกฝั่งเมื่อสักครู่นี้เอง รีบตามไปเร็วเข้า!”

นอกจากนั้นกลุ่มนักว่ายน้ำยังเสนอที่จะให้เรือแก่วิลเลียม แต่ว่าเขาปฏิเสธ

“ปล่อยให้เขาไปเถอะ” วิลเลียมพูด “ตอนนี้ผมอยากจะรู้จักพวกคุณให้มากขึ้นกว่านี้สักหน่อย”

ทำไมวิลเลียมถึงไม่ไล่ตามผู้ร้ายไป แต่กลับมาให้ความสนใจกับกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้แทน ?

 

3. คดีปริศนาในวันคริสต์มาส

 

ถึงแม้จะเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่นักสืบ ยูริ ก็ยังคงทำงานอยู่ และในช่วงเช้าของวันที่ 25 ธันวาคม เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งที่ทำให้เขาต้องรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที

ยูริ ไปกดออดที่ประตูบ้านหลังหนึ่ง ไม่กี่นาทีถัดมา ประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมกับการต้อนรับจากเจ้าของบ้านที่กำลังดูงัวเงียและงุนงง ยูริแนะนำตัวเองว่าเขาคือนักสืบก่อนที่จะอธิบายว่า

“เพื่อนบ้านของคุณแจ้งว่า เมื่อวานในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เขามาปาร์ตี้ที่บ้านของคุณ และในขณะที่เขากำลังร้องเพลงพร้อมๆ กับครอบครัวของคุณใกล้ๆ กับต้นคริสต์มาสที่ประดับด้วยดวงไฟส่องสว่างหลากสี คุณได้แอบเข้าไปในบ้านของเขาและขโมยของมีค่าจำนวนมากกลับออกมา”

เจ้าของบ้านรีบตอบปฏิเสธทันควัน “ไม่มีทาง! ครอบครัวของพวกเราฉลองคริสต์มาสด้วยกันที่บ้านของเขาต่างหาก พวกเราไปหาเขาตอนบ่ายๆ ผมแทบจะไม่มีเวลาตกแต่งต้นคริสต์มาสก่อนที่เราจะไปหาพวกเขาเลย”

“เรากลับมาที่บ้านหลังเที่ยงคืนแล้วก็เข้านอนทันที ถ้าคุณอยากรู้ความจริงล่ะก็ ผมจะปลุกภรรยากับลูกชาย ทั้งคู่จะยืนยันได้ว่าทั้งหมดที่ผมพูดคือเรื่องจริง”

“ไม่จำเป็นหรอก” ยูริพูด “ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน แต่ดูแค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าเพื่อนบ้านของคุณเป็นฝ่ายพูดโกหก”

ทำไมนักสืบยูริถึงทราบได้อย่างรวดเร็วว่า เพื่อนบ้านเป็นคนโกหก ?

 

4. คดีแหกคุก

 

นักโทษเดนตายคนหนึ่งชื่อ แจ็ค ถูกขังอยู่ในคุกที่มีพื้นดินและมีหน้าต่างเพียงบานเดียวที่อยู่สูงจนเขาไม่สามารถเอื้อมถึง

ภายในคุกนี้ว่างเปล่ายกเว้นมีเพียงแค่พลั่ว 1 อันเท่านั้น และอากาศภายในนี้ก็แห้งและร้อนมาก แถมแจ็คยังไม่มีอาหารและน้ำอีก แน่นอนว่าเขากำลังถูกปล่อยให้ตายอย่างช้าๆ 

ซึ่งถ้าเขาไม่สามารถแหกคุกออกไปให้ได้ภายใน 2 วัน เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

พลั่วที่ผู้คุมทิ้งไว้ให้ก็เหมือนจะเป็นการแกล้งกัน เพราะการขุดอุโมงค์ต้องใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ กว่าที่จะออกไปจากคุกแห่งนี้ได้

แต่แล้วจู่ๆ แจ็คก็สามารถหนีออกไปจากคุกได้ คุณทราบหรือไม่ว่าแจ็คใช้วิธีอะไรในการแหกคุกครั้งนี้

 

เฉลย

 

1. ใครขโมยสร้อยข้อมือ ?

 

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงสร้อยข้อมือของเด็กสาวได้ โดยปราศจากรอยเท้าบนพื้นทราย นั่นก็คือชายที่ถือคันเบ็ดตกปลา ที่สามารถใช้คันเบ็ดของเขาเกี่ยวสายสร้อยมาได้โดยที่ไม่ต้องเดินเข้าไปใกล้ๆ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง

 

2. ใครคือคนร้าย ?

 

แม่น้ำแห่งนี้ทั้งลึกและไหลเชี่ยว ถ้ามีใครตัดสินใจว่ายผ่านไปล่ะก็ จะต้องจมน้ำอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่คนร้ายจะหนีขึ้นไปโผล่อีกฝั่งได้ในจุดที่เห็นได้ และเมื่อเป็นอย่างนั้น คนที่โกหกว่าคนร้ายว่ายข้ามไปได้จึงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด

 

3. ทำไมนักสืบถึงรู้ว่าเพื่อนบ้านโกหก ?

 

ไฟประดับต้นคริสต์มาส มีหลอดไฟหายไป 1 ดวง และมันจะไม่สามารถใช้ได้ เจ้าของตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยความรีบร้อน และเขาไม่ได้ตรวจสอบว่าหลอดไฟทำงานได้ปกติหรือไม่ ซึ่งเพื่อนบ้านไม่รู้เรื่องนี้

ดังนั้นการที่เขาพูดว่ากำลังร้องเพลงอยู่ใกล้กับต้นคริสต์มาสที่ส่องสว่างจึงเป็นเรื่องโกหก นอกจากนั้น สายไฟต้นคริสต์มาสที่เป็นรอยขาดก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แสงไฟไม่ทำงานด้วย

 

4. ทำไมถึงแหกคุกได้ ?

 

แจ็คควรใช้พลั่วขุดดินเพื่อเอามาถมเป็นกองดินใต้หน้าต่าง เพื่อที่เขาจะได้เหยียบมันปีนออกไปทางหน้าต่างได้อย่างง่ายดาย

 

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา