ศิลปินสมัยใหม่จากทั่วโลกมักสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนอารมณ์ออกมาผ่านผลงานประติมากรรมของพวกเขาเพื่อพิชิตใจของผู้คนที่ได้มาชม นำเสนอข้อความทรงพลังที่สื่อความหมายถึงผู้รับโดยไร้ข้อความใด ๆ หลายชิ้นงานสะเทือนอารมณ์ไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังแรงบันดาลใจ วันนี้เพชรมายารวบรวมผลงานประติมากรรมทั้ง 7 ที่ทำให้หัวใจคุณต้องสั่นไหวและอินไปกับเรื่องราวเบื้องหลังการสร้าง
1. เนลโล & ปาทราช
ข้างนอกของมหาวิหารแห่งเลดี้ เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของเด็กน้อยที่นอนหลับกับสุนัขของเขาใต้ผ้าห่มพื้นถนน แรกเห็นคงทำให้ชื่นชมในความน่ารักเป็นแน่ แต่แท้จริงแล้วมันมีเรื่องราวแสนเศร้าซ่อนไว้ ผลงานประติมากรรมบอกเล่าเรื่องของเนลโลและสุนัขกู้ภัยของเขาปาทราชซึ่งเป็นนิทานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 19 โดยบรรยายถึงเนลโลที่เผชิญความยากลำบากในการใช้ชีวิต การต่อสู้เพื่อเอาชนะความหิวโหยและท้ายที่สุดต้องเสียชีวิตจากความหนาวในโบสถ์โดยมีเพื่อนรักของเขาอยู่เคียงข้างกาย
2. Expantion
ผลงานประติมากรรมสุดทรงพลังชิ้นนี้สร้างโดย เพจ แบรดลีย์ แม้จะไม่มีเรื่องราวเบื้องหลังแต่มันสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เรามีอยู่ข้างใน ตามชื่อของมันที่หมายถึงการขยายตัว รูปปั้นมีความหมายถึงประสิทธิภาพซึ่งซ่อนอยู่ข้างในตัวเราภายใต้ความหนื่อยล้า ความคาดหวังและความเข้าใจผิด เมื่อเบื่อหน่ายกับการถูกปฎิเสธ
ศิลปินเลือกใช้รูปร่างของหญิงสาวที่กำลังทำสมาธิบนพื้นและกำลังปลดปล่อยพลังข้างในที่แท้จริงออกมา โดยสื่อความหมายถึงการเป็นอิสระและให้โอกาสกับตัวเอง ผลงานตั้งแสดงในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
3. ปืนผูกปม
ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์กมีรูปปั้นปืนขนาดยักษ์ตั้งอยู่โดยมีปลายกระบอกปืนถูกผูกปมไว้ ผลงานสื่อความหมายถึงการ “หยุดความรุนแรง” โดยผู้สร้างชื่อ คาร์ล เฟดเดอริก รอยเตอร์วัลด์ เพื่อระลึกถึงเพื่อนของเขาและนักร้องชื่อดัง จอห์น เลนนอน ผู้ก่อตั้งวงเดอะ บีทเทิ้ล ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในที่พักของเขาเอง
4. รัก — เด็กที่ติดในร่างของผู้ใหญ่
ผลงานจาก อเล็กซานเดอร์ มิลอฟ โดยนำเสนอโครงสร้างของผู้ใหญ่สองคนที่หันหลังชนกัน และภายในโครงสร้างมีรูปปั้นเด็กอยู่ข้างในของทั้งคู่ที่กำลังหันหน้าเข้าหากัน ผลงานตั้งแสดงครั้งแรกในเบิร์นนิ่งแมนซึ่งเป็นที่สนใจและมีการแชร์กันอย่างมากในอินเตอร์เน็ต และมันมีการสื่อความหมายได้หลายรูปแบบ
สิ่งผู้คนส่วนใหญ่มักตีความหมายไว้ก็คือเด็กที่จับมือกันโดยพ่อแม่แยกทางกัน, คู่รักที่มีอีโก้ต่อกัน หรือพ่อแม่ที่สูญเสียลูก ๆ ไปจาชีวิตจริง แล้วคุณล่ะคิดว่าผลงานชิ้นนี้สื่อความหมายถึงอะไรกัน
5. รองเท้าริมแม่น้ำดานูบ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวยิวถูกสั่งให้ทิ้งรองเท้าของตัวเองไว้และยืนใกล้แม่น้ำเพื่อรอคอยชะตากรรมที่น่าเศร้าของพวกเขา ผลงานนำเสนอผ่านงานปั้นรองเท้าเหล็กหลายคู่เพื่อระลึกถึงชาวยิวกว่า 3,500 ชีวิตที่เสียไปภายในแม่น้ำดานูบ โดยผลงานนี้ตั้งอยู่ที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
6. รูปปั้นฮาจิโกะ
รูปปั้นที่นับได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นก็ว่าได้ ตั้งในชิบูย่า โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แม้รูปปั้นจะเป็นแค่สุนัขธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับคนท้องถิ่นมันถือเป็นเกียรติแก่สุนัขที่ไม่ธรรมดาที่สุดที่ชื่อ ฮาจิโกะ สุนัขที่ถูกอุปการะโดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียวที่ชื่อ ฮิเดซาบูโร อูเอโนะ
ทุกวันฮาจิจะมานั่งรอเจ้านายที่สถานีรถไฟชิบูยะ เป็นเวลาหลายปีที่ฮาจิทำเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งศาสตราจารย์จากไปจากภาวะเลือดออกในสมอง วันนั้นศาสตราจารย์ไม่ได้กลับมา แต่ถึงอย่างนั้น ฮาจิก็ยังคงเฝ้ารอการกลับมาของเขาต่อไปเรื่อย ๆ ทุกวัน นานถึง 9 ปี จนกระทั่งฮาจิหมดอายุขัยลง สุดท้ายเถ้ากระดูกของฮาจิก็ถูกนำไปฝังเคียงข้างเจ้านายของมันอย่างสงบ
7. อาลีและนีโน (ชายหนุ่มและหญิงสาว)
เรื่องราวของรักเกิดขึ้นทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในภาพยนตร์ แต่ประติมากรรมชิ้นนี้นสื่อถึงอารมณ์ทั้งหมดได้อย่างดีเยี่ยม ประติมากรรมเคลื่อนที่ได้ของชายหนุ่มและหญิงสาวออกแบบโดย ทามาระ คเวสิทัดเซ โดยบอกเล่าเรื่องราวน่าเศร้าของอาลีและนีโน คู่รักที่ต้องพลัดพรากจากกันเพราะความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ศาสนา และผลจากสงคราม
ทุกวันเวลา 7.00 น. ที่บาตูมี ประเทศจอร์เจีย ประติมากรรมจะเคลื่อนที่เข้าหากันจนผสานร่างและจุมพิตกันเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะแยกจากกันไป
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ