เรื่องราวของสัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึกถือเป็นตำนานของบรรดานักเดินเรือมานานหลายศตวรรษ เรื่องเล่ามากมายถูกบอกต่อๆ กันมาเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอย่างคราเคน ที่มีลักษณะเป็นปลาหมึกยักษ์ ไดโนเสาร์ใต้ทะเล หรือแม้แต่ฉลามยักษ์เมกาโลดอน ที่เคยมีชีวิตอยู่จริงในอดีตที่ผ่านมา
และหนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดในศตวรรษที่ 20 เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1918 เมื่อเรือลาดตระเวนของอังกฤษ ได้พบเรือดำน้ำ UB-85 ของเยอรมนีลอยอยู่บนผิวน้ำ
แต่สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ลูกเรือชาวเยอรมนีทั้งหมดโผล่ออกมาจากเรือดำน้ำ และยอมมอบตัวแต่โดยดีโดยไม่มีการขัดขืน
กับตันเครช ผู้บัญชาการเรือดำน้ำดังกล่าวให้การว่า เขาได้รับคำสั่งให้ลาดตระเวณอยู่ในทะเลไอริช เพื่อดักโจมตีเรือขนส่งสินค้าที่มาจากอเมริกาและบราซิล
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังลอยอยู่บนผิวน้ำในชวงเวลากลางคืนบริเวณชายฝั่งของสกอตแลนด์ เรือดำน้ำก็ถูกโจมตีโดย “สัตว์แปลกๆ” ที่พวกเขาไม่รู้จัก
กัปตันได้อธิบายลักษณะของสัตว์ประหลาดตัวนี้เอาไว้ว่า มันมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่บนกระโหลกศีรษะที่คล้ายกับมีเขา หัวของมันไม่ใหญ่ แต่ฟันของมันเป็นประกายสะท้อนกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน
สัตว์ประหลาดปีนขึ้นมาบนเรือดำน้ำ น้ำหนักของมันทำให้เรือดำน้ำขนาด 730 ตัน จมลงในน้ำได้อย่างง่ายดาย กัปตันเครชพยายามสั่งให้ลูกเรือยิงต่อสู้กับเจ้าสัตว์ประหลาดดังกล่าว จนบริเวณดาดฟ้าและบางส่วนของเรือได้รับความเสียหายและไม่สามารถดำลงไปใต้น้ำได้อีกหลังจากนั้นไม่นานสัตว์ประหลาดก็ได้หนีไป และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมลูกเรือชาวเยอรมันถึงยินยอมให้ถูกจับแต่โดยดี
หลังจากผ่านไปนานนับศตวรรษ จนกระทั่งกี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางบริษัท Scottish Power ที่รับวางสายเคเบิลใต้น้ำของสกอตแลนด์ ได้มีการค้นพบซากเรือดำน้ำที่คล้ายกัน ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เคยเกิดเหตุการณ์โจมตีเรือดำน้ำ UB-85 ซึ่งระบบโซนาร์ได้ตรวจจับได้ว่ามันจมอยู่ใต้มหาสมุทรราว 350 ฟุต ซึ่งบริเวณดาดฟ้าของเรือก็ส่วนเสียหายคล้ายกับเรือของกัปตันเครชเช่นกัน
น่าเสียดายที่เรื่องราวนี้ไม่ได้ถูกสืบหาต่อว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนกัปตันเครช ได้เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อเดือนมีนาคม 1919 เพียง 1 ปี หลังจากที่เขาพบกับสัตว์ประหลาดตัวนี้
ไม่มีใครทราบเรื่องราวที่แท้จริงว่าเขาเสียชีวิตได้อย่างไร ส่วนลูกเรือของเขาก็ไม่มีใครทราบชะตากรรม นั่นจึงทำให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงตำนานที่บอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้นเอง
ที่มา : dailymail | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
