ถึงแม้วันฮัลโลวีนจะเป็นวันที่มีความเกี่ยวข้องกับภูติผีปีศาจ แต่สำหรับในยุคปัจจุบันแล้ว นี่คือเทศกาลที่เหล่าบรรดาผู้คน โดยเฉพาะชาวตะวันตกจะมาเฉลิมฉลอง ปาร์ตี้ แฟนซี กันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปการตกแต่งบ้านเรือนให้มีสีสัน และกิจกรรมของเด็กๆ อย่าง Trick or Treat ที่จะชวนกันแต่งตัวแฟนซี ไปขอขนมตามบ้านต่างๆ หากนึกภาพของวันฮัลโลวีนแล้ว ยังไงก็มีแต่ความสนุกสนานแน่นอน
แต่สำหรับในอดีตที่ผ่านมา วันฮัลโลวีนไม่ใช่เทศกาลรื่นเริงแบบนี้ แต่มันถูกเรียกว่าเทศกาล Samhain ซึ่งเป็นพิธีกรรมทางศาสนาของชาวเซลติก ที่มาพร้อมกับความสยองอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งวันนี้เพชรมายาจะขอพามาชมกัน
1. พิธีกรรมสังเวยราชา
ในบริเวณที่ราบลุ่มในไอร์แลนด์ ศพหลายศพถูกพบในสภาพที่เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี มีการพอกผิวหนังให้ศพอยู่ในสภาพสมบูรณ์
นักโบราณคดีเชื่อว่า มันเป็นศพของบรรดาชนชั้นปกครองหรือแม้แต่กษัตริย์ ที่ถูกสังเวยชีวิตในเทศกาล Samhain ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าปีไหนผู้คนต้องเจอกับภัยพิบัติอย่างโรคระบาดหรือปัญหาอดอยาก กษัตริย์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
2. ปลุกวิญญาณคนตาย
ความเชื่อของวัน Samhain คือช่วงเวลาที่ประตูโลกวิญญาณจะเปิดออก และหลายๆ คนจะพยายามพาพวกเขากลับมา บางแห่งจะมีการนำอาหารมาวางไว้หน้าประตูนอกบ้าน เพื่อให้กับวิญญาณคนตาย รวมไปถึงการเปิดประตูรับวิญญาณให้เข้ามาพักในบ้านได้ด้วย
ส่วนบางตำนานของชาวไอริชเชื่อว่า เมื่อประตูโลกวิญญาณเปิดออก ปีศาจ ‘ไอลีน’ จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อเผาผลาญบ้านเมือง
3. วิญญาณพยากรณ์
ในช่วงเทศกาล Samhain ผู้คนจะเรียกวิญญาณออกมาเพื่อทำนายอนาคตว่าพวกเขาจะโชคดีหรือโชคร้าย พวกเขาจะมีวิธีเชิญวิญญาณด้วยการกระทำแปลกๆ ส่วนถ้าใครคิดจะแอบฟังจะต้องมีวิธีป้องกันไม่ให้วิญญาณเข้าทำร้ายโดยการอมน้ำให้เต็มปาก และถือถุงเกลือเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง
4. การลักพาตัวของนางฟ้า
ไม่ใช่มีแต่ภูติผีปีศาจ เพราะวันนี้ นางฟ้าจะออกมาจากที่พำนักของพวกเธอมาเตร็ดเตร่ยังโลกมนุษย์ พวกเธอไม่ใช่นางฟ้าใจดีแต่กลับเป็นปีศาจที่น่ากลัว เพราะเธอเป็นสมุนของราชาแห่งความตายที่จะขี่เมฆฝนพร้อมมากับกองทัพปีศาจสุนัข เพื่อมาตามล่าหาวิญญาณดวงใหม่
ซึ่งช่วงวันเทศกาลนี้เอง ผู้คนจะอยู่ห่างจากพวกเนินนางฟ้า (Fairy Fort) ที่เป็นบ้านของพวกเธอ เพราะเกรงว่าจะถูกลากไปลงนรกนั่นเอง
5. สัตว์ประหลาดแห่งถ้ำแมว
สถานที่ๆ หลอนกว่าเนินนางฟ้าก็คือถ้ำ Oweynagat หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าถ้ำแมว โดยตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่ราชินีองค์หนึ่งสิ้นพระชนม์ บรรดาสาวใช้ของเธอถูกบังคับให้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำแคบๆ แห่งนี้ ตั้งแต่นั้น ถ้ำนี้ก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงความน่ากลัว
โดยในยุคกลาง มีบันทึกที่อ้างว่าเป็นสัตว์มากมายประหลาดคลานออกมาจากถ้ำ รวมไปถึงการพบวิญญาณหญิงสาวที่จะออกมาปรากฏตัวออกมาจากถ้ำในช่วงวันฮัลโลวีน และจะพาสัตว์ที่มีสภาพดีที่สุด 9 ตัว จากแต่ละฝูงกลับไปด้วย
6. กระโดดข้ามกองไฟ
ในเมืองมูเรย์ของสกอตแลนด์ เด็กๆ ผู้ชายจะเดินไปเคาะประตูต่างๆ เพื่อขอ “ถ่านสำหรับเผาแม่มด” ซึ่งพวกเขาจะนำถ่านเหล่านั้นมาจุดไฟ และให้เด็กคนหนึ่งนอนลงให้ใกล้ที่สุด จากนั้นก็ปล่อยให้ควันปกคลุมตัวจนทั่ว และให้เพื่อนๆ กระโดดข้ามตัวเองไปพร้อมๆ ควัน
ส่วนในเวลส์ ผู้คนจะกระโดดข้ามกองไฟ และวิ่งหนีไป โดยจินตนาการว่าสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “Black Sow” จะไล่จับคนที่วิ่งช้าที่สุด นั่นอาจฟังดูเป็นการละเล่นของเด็กๆ แต่พิธีกรรมที่เก่าแก่กว่านั้น จะมีการจับหนึ่งในนักวิ่งที่ถูกอ้างว่า เป็นตัวชั่วร้ายแห่งปี โยนลงไปบนกองไฟเพื่อเป็นการบูชายัญ
7. แต่งเป็นคนตาย
การแต่งกายแฟนซี ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Samhain เช่นกัน แต่การแต่งกายของพวกเขาคือการแต่งเป็นคนตายจริงๆ พวกเขาจะวาดหน้า ทาสีดำ นำฟางมาทำเป็นเสื้อผ้าเพราะเชื่อว่าพวกเขาจะกลมกลืนไปกับดวงวิญญาณ แถมบางคนก็จะนำหนังสัตว์สดๆ ที่เพิ่งเชือด มาตกแต่งร่างกายอีกด้วย นี่ยังไม่รวมเครื่องประดับที่เป็นกระโหลก กระดูกต่างๆ ที่ทำให้ชวนสยองแบบสุดๆ
8. บูชายัญเด็ก
ในตำนานของชาวไอริช พูดถึงความต้องการของเทพเจ้า Cromm Crauch ในช่วงเทศกาล Samhain โดยตำนานบทหนึ่งกล่าวว่า ผู้คนจะต้องยก สิ่งที่พวกเขาเป็นเจ้าของ 2 ใน 3 ส่วน ให้กับเทพเจ้า โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูหนาว นั่นรวมถึง ข้าวโพด นม และลูกๆ ของพวกเขา โดยพวกเขาจะฆ่าลูกคนโตที่โชคร้าย และเทเลือดของพวกเขาลงไปรอบๆ รูปปั้นเทพอีกด้วย
ที่มา : listverse | เรียบเรียงโดย เพชรมายา