เราอาจคิดว่ามนุษย์เรามีความรู้เกี่ยวกับโลกที่เราอาศัยอยู่นี้มากมาย แต่นั่นไม่ใช่ความเป็นจริงเลย เพราะยังมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่มนุษย์ยังคงไม่เข้าใจมันได้อย่างชัดเจน แถมมันยังดูน่าทึ่งราวกับเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติจริงๆ
1. ไฟลึกลับแห่งเซนต์เอลโม
ดวงไฟลึกลับที่จะมาปรากฏบนท้องทะเลให้บรรดานักเดินเรือได้เห็นในช่วงระหว่างการเกิดพายุ โดยในยุคกลางของยุโรปมีความเชื่อว่า ดวงไฟเต้นระบำเป็นของขวัญมาจากเซนต์เอลโม นักบุญอุปถัมภ์ของบรรดาลูกเรือ โดยเขาสัญญาว่าจะภาวนาให้กับลูกเรือและจะมาเตือนพวกเขาในรูปแบบของไฟที่ปรากฏอยู่บนเสากระโดงเรือ
ส่วนในทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่ไฟฟ้าสถิตย์ในอากาศไหลลงสู่ที่ต่ำโดยผ่านวัตถุต่าง ๆ เช่นเสากระโดงเรือ มักจะเกิดในวันที่มีพายุฝนฟ้าคะนองเท่านั้น
2. ภูเขาไฟหิมะในแอนตาร์กติกา
แอนตาร์กติกา คือทวีปที่อยู่บริเวณขั้วโลกใต้ ถือเป็นดินแดนที่หนาวเหน็บที่สุด และคงไม่มีใครคิดว่าจะมีภูเขาไฟอยู่ในดินแดนที่มีแต่น้ำแข็งและหิมะเช่นนี้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่นี่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นที่ยังคงคุกรุ่นอยู่คือภูเขาไฟเอเรบัส ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ และถึงแม้มันจะไม่เกิดระเบิดรุนแรงขึ้น แต่ก็ยังมีไอควันพวกพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา จนได้รับฉายาว่า “ลมหายใจของมังกร”
3. เสาแสง
ดูแล้วคุณอาจคิดว่านี่คือการบุกโจมตีโลกของมนุษย์ต่างดาว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาดูได้ยาก ซึ่งเป็นปรากฏกการณ์สะท้อนแสงของผลึกน้ำแข็งเล็กๆ ในอากาศ ที่สะท้อนลำแสงจากแหล่งกำเนิดแสงเข้าสู่ดวงตาของเรา
แนวทางของแหล่งกำเนิดแสงนั้นจะมีลักษณะอยู่ในแนวราบ ค่อนข้างขนานกับพื้น โดยมากแห่งกำเนิดแสงจะเป็นพระอาทิตย์ แต่ ก็สามารถเกิดจากพระจันทร์ หรือ แสงสว่างที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ได้
4. สปาเก็ตตีหิมะ
ชายคนหนึ่งจากเมือง Hämeenlinna ประเทศฟินแลนด์ ได้พบปรากฏการณ์ประหลาดบริเวณทะเลสาบใกล้บ้านของเขา โดยมันเป็นหิมะที่มีลักษณะเหมือนเส้นสปาเก็ตตีจำนวนมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่รู้ๆ คือมันสามารถนำมาทำเป็นบอลหิมะได้
ถึงแม้มันจะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ให้ความเห็นว่า มันน่าจะเกิดจากการเคลื่อนไหวของลมและน้ำก่อนที่หิมะที่ตกจะละลาย
5. ป่าเต้นระบำ
ในขณะที่ต้นไม้ในป่าส่วนใหญ่มีลำต้นตั้งตรง แต่สำหรับที่ป่าแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซียกลับพบว่า ต้นไม้ส่วนใหญ่มีลำต้นโค้งงอ บิดเบี้ยว ผิดธรรมชาติ และไม่อาจหาสาเหตุได้
บางคนสันนิษฐานว่ามันอาจจะเกิดจากปรสิต ในขณะที่คนอื่นๆ เชื่อว่ามันเติบโตมาท่ามกลางสภาพลมทะเลที่แรงจัด และบางคนก็เชื่อไปถึงว่า มันอาจเป็นสถานที่ๆ มีวิญญาณสิงสถิตอยู่อีกด้วย
6. เรด สไปรท์
ถ้าคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับ UFO คงคิดว่า นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ต่างดาว แต่จริงๆ แล้วมันคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของแสงในชั้นบรรยากาศเท่านั้น ซึ่งเพิ่งถูกค้นพบครั้งแรกผ่านกล้องถ่ายภาพในปี 1989
เรด สไปรท์ ถือเป็นปรากฏการณ์ฟ้าผ่ารูปแบบใหม่ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของประจุไฟฟ้า เป็นการปะทะกันของอิเล็กตรอนพลังงานสูงกับโมเลกุลของอากาศ ปรากฏเป็นแสงสว่างวาบชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
7. ทะเลสีเลือด
ถ้าเป็นคุณคงเจอน้ำทะเลสีแดงฉานแบบนี้คงไม่อยากลงไปเล่นแน่นอน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลือดของสัตว์ที่ตายในท้องทะเลแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ที่เกิดจากสาหร่ายสีแดงขนาดเล็กจำนวนมหาศาลที่อยู่ใกล้กับผิวน้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น กระแสน้ำสีเลือดนี้ได้ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง ในขณะที่ไฮโดรเจน ซัลไฟด์ และแอมโมเนียจะสูงขึ้น จนเป็นตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล
8. ปีศาจแห่งบร็อกเคน
นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนภูเขาบร็อกเคน ในประเทศเยอรมนี อาจจะต้องพบกับปรากฏการณ์สยองแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะคุณอาจพบกับเงาปีศาจขนาดใหญ่ ที่ปรากฏตัวท่ามกลางหมอกและล้อมรอบด้วยสายรุ้งรอบตัว จนทำให้คุณขนหัวลุกได้
แต่จริงๆ แล้วมันคือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รุ้งหมอก (Fogbow) ที่เกิดจากการสะท้อนแสงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังของเรา สาดเข้าไปหากลุ่มหมอกที่อยู่ด้านหน้า โดยแสงจะสะท้อนละอองน้ำในอากาศที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งถ้าเงาของคนถ่ายรูปไปสะท้อนอยู่ตรงกลาง ก็จะปรากฏเป็นเหมือนปีศาจตัวใหญ่มหึมา ซึ่งแท้จริงแล้ว มันคือเงาของตัวเราเอง
9. หุบเขานกร่วง
ในบริเวณหุบเขาจาทินกา ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่ๆ เกิดเหตุการณ์ประหลาดมานานนับศตวรรษ เพราะนกกว่า 44 สายพันธุ์ที่บินผ่านบริเวณนี้ จะบินเป็นวงกลมในระดับที่ต่ำมาก และบางตัวก็ตกลงมาในสภาพกึ่งหมดสติ
ตามปกติแล้ว นกจะกำหนดทิศทางการบินจากดวงอาทิตย์และสนามแม่เหล็กโลก แต่เหตุผลที่นำมีพฤติกรรมแปลกๆ อาจเกี่ยวกับความผิดปกติทางธรณีวิทยา หรืออะไรบางอย่างก็ปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
10. วัตถุลึกลับในทะเลบอลติก
วัตถุประหลาดถูกพบบริเวณก้นทะเลบอลติก ลักษณะของมันดูคล้ายกับ UFO หรือยานอวกาศอะไรสักอย่างที่จมอยู่ใต้ทะเลมานานมาก ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายว่ามันเกิดจากการทับถมกันของหินบะซอลต์
แต่ในขณะที่หลายๆ คนพยายามเชื่อมโยงปรากฏการณ์นี้กับสิ่งที่ดูตื่นเต้นกว่านั้น มันอาจเป็นยานพาหนะที่จมลงก้นทะเลและถูกหินทับถม เพราะรูปร่างของมันไม่น่าจะใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
11. ไบรนิเคิล – นิ้วน้ำแข็งแห่งความตาย
ไบรนิเคล เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ถูกตั้งสมมติฐานครั้งแรกในปี 1974 แต่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีอยู่จริงในปี 2011 ซึ่งมันถูกถ่ายวีดีโอได้โดยบังเอิญ โดยสำนักข่าว BBC
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอนตาร์กติก โดยเปรียบเสมือนนิ้วที่ค่อยๆ ชี้ลงมาถึงก้นทะเล และด้วยความเย็นของมันที่สูงมากจนทำให้บริเวณพื้นที่มันสัมผัสกลายเป็นน้ำแข็งกระจายไปทั่ว คร่าสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้น จนเป็นที่มาของชื่อ “นิ้วน้ำแข็งแห่งความตาย” นั่นเอง
12. วงน้ำแข็งบนแม่น้ำ
ตามปกติแล้ว เราไม่ค่อยเห็นอะไรที่มันมีรูปทรงที่สมบูรณ์แบบที่เกิดจากธรรมชาติสักเท่าไหร่ แต่สำหรับปรากฏการณ์นี้เกิดจากแม่น้ำที่ก่อตัวเป็นน้ำแข็ง เหลี่ยมมุมของก้อนน้ำแข็งค่อยๆ หายไป จนกลายเป็นวงกลมที่สมบูรณ์
ปรากฏการณ์หายากนี้ ได้รับรายงานว่าเกิดขึ้นทั้งในสแกนดิเนเวีย, อเมริกาเหนือ, เยอรมนี, อังกฤษ และรัสเซีย
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ