ความสามารถทางด้านร่างกายและการรับรู้ของมนุษย์โดยทั่วไปล้วนมีขีดจำกัด แต่นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า สมองของเราเป็นตัวควบคุมขีดจำกัดนั้นไว้ ซึ่งมันสามารถบีบขีดจำกัดเราให้สูงขึ้นหรือต่ำลงก็ได้ และคนที่สามารถเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้ก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่า ข้อจำกัดเหล่านี้มันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น วันนี้เพชรมายาจึงขอพาทุกท่านมาชมบรรดาผู้คนที่สามารถเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้ ไม่ว่าจะด้วยความอดทน ความบังเอิญ หรือแม้แต่จากอุบัติเหตุก็ตาม
1. จอช ซันด์ควิสต์ กลายเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกหลังสูญเสียขา
จอช สูญเสียขาของเขาตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 10 ปีจากโรคมะเร็งกระดูกที่หายาก เขาใช้เวลารักษาตัวจนถึงอายุ 13 ปี และได้เริ่มฝึกเล่นสกีตอนอายุ 16 ปี และหลังจากการฝึกฝนนานถึง 6 ปี เขากลายเป็นนักกีฬาสกีทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขันพาราลิมปิก นอกจากนั้นเขายังกลายเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจและนักเขียนระดับ Best-Seller อีกด้วย
2. จอร์จ แดนสิก ที่แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ด้วยความไม่รู้
ย้อนกลับไปตอนที่ จอร์จ แดนต์สิก ยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เขาไปถึงห้องเรียนสายและเห็นว่าบนกระดานดำมีโจทย์คณิตศาสตร์อยู่ 2 ข้อ จอร์จคิดว่านี่คือการบ้านที่อาจารย์สั่งให้ทำ เขาจึงรีบลอกลงสมุดแล้วกลับไปทำมาส่งอาจารย์ในอีก 2-3 วันให้หลัง โดยหารู้ไม่ว่าโจทย์ทั้ง 2 นั้นเป็นโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยังไม่เคยมีใครแก้ได้มาก่อน ซึ่งต่อมามันได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมคณิตศาสตร์แห่งอเมริกา และกลายเป็นส่วนหนึ่งในวิทยานิพนธ์ของเขาอีกด้วย
3. เจสัน แพดเจ็ตต์ กลายเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์หลังเกิดอุบัติเหตุ
หลังจากที่ เจสัน แพดเจ็ตต์ ถูกทำร้ายร่างกายข้างนอกบาร์แห่งหนึ่งจนทำให้สมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก แต่แทนที่เขาจะมีปัญหาด้านสมอง กลับกลายเป็นว่าเขาเริ่มมองเห็นโลกในแบบเรขาคณิต ก่อนหน้านั้นเขาเป็นเพียงเซลส์แมนขายเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาๆ แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บ เขาได้รับความสามารถในการมองเห็นวัตถุในแบบคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและเข้าใจแนวคิดของหลักฟิสิกส์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ เจสันคือหนึ่งในกลุ่มตัวอย่างของผู้ที่เป็นโรคนักปราชญ์ ที่เกิดขึ้นกับคนธรรมดาที่ได้รับความสามารถพิเศษหลังเป็นโรคร้ายแรงหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส
4. ไรน์โฮลด์ เมสส์เนอร์ มนุษย์คนแรกที่พิชิตเอเวอเรสต์ได้โดยไม่ต้องพึ่งขวดออกซิเจน
ไรน์โฮลด์ ชายเจ้าของสถิติมากมาย เช่น เขาคือมนุษย์คนแรกที่พิชิตภูเขาทุกลูกบนโลกที่สูงกว่า 8,000 เมตร (14 แห่ง) โดยที่ไม่ต้องใช้ขวดออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ และสามารถพิชิตเอเวอเรสต์ได้ในปี 1978 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและแพทย์เองกล่าวว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเคยพิชิตเทือกเขาโดโลไมท์ที่สูง 11,000 ฟุตตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และยังเป็นคนแรกที่พิชิตเอเวอเรสต์ได้ด้วยตัวเองคนเดียวอีกด้วย
5. ยูเร โรบิก ผู้ชนะการแข่งปั่นจักรยานระยะทาง 3,000 ไมล์ ถึง 5 ครั้ง
นักปั่นจักรยานชาวสโลเวเนียผู้นี้สร้างสถิติปั่นจักรยาน 834.77 กิโลเมตร โดยไม่หยุดพักเลย โดยเขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความอึดเกินขีดจำกัดของมนุษย์ เพราะเขาใช้เวลานอนหลับเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นในระหว่างการปั่นจักรยานทางไกล
อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ พลังพิเศษในเรื่องความอึดของเขาเกิดจากการที่ตัวยูเรเองปฏิเสธข้อความที่ถูกส่งมาจากสมองเรื่องความเหนื่อยล้า และเขาจะฟังแค่เฉพาะลูกทีมของเขาที่เป็นคนตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ที่เขาควรจะพัก เมื่อไหร่ที่ต้องกิน หรือเขาต้องทำเวลาเร็วแค่ไหน
6. เฮอร์เบิร์ต นิตช์ มนุษย์ที่ดำน้ำได้ลึกถึง 253 เมตร
ในขณะที่คุณอาจรู้สึกปวดหูเวลาที่ต้องดำน้ำลงไปเพียง 2-3 เมตร แต่สำหรับเฮอร์เบิร์ต นิตช์ เขาสามารถกลั้นหายใจได้นานถึง 9 นาที เพื่อดำน้ำลงไปได้ลึกถึง 253.2 เมตร และนอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของสถิติโลกอีกถึง 33 สถิติ ซึ่งในระหว่างการดำน้ำที่สร้างสถิติโลกครั้งนี้ เขาถึงกับหมดสติเนื่องจากอาการเมาไนโตรเจน และต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่นาน จนกระทั่งหลายปีต่อมา เขากลับมาฝึกฝนร่างกายและกลับมาดำน้ำลึกได้อีกครั้ง
7. ฮวาง ชอลซุน หนุ่มขี้ก้างน้ำหนัก 56 กิโล กลายมาเป็นคนเหล็ก
ฮวาง ชอลซุน พ่อหนุ่มชาวเกาหลีผู้นี้มีน้ำหนักเพียง 56 กิโลกรัมเท่านั้นตอนที่อายุ 20 ปี และเขามักถูกปฏิบัติด้วยความไม่เคารพเหมือนกับวัยรุ่นหุ่นขี้ก้างคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองและออกกำลังกายอย่างหนัก ฮวางซิทอัพมากถึงวันละ 3,000 ครั้ง ควบคุมอาหาร จนกระทั่งกลายเป็นแชมป์เพาะกายที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลี
8. แรนดี้ การ์ดเนอร์ ชายที่อดนอนได้นานถึง 11 วัน
ในปี 1964 แรนดี้ การ์ดเนอร์ เด็กหนุ่มวัย 17 ปีผู้นี้ไม่ได้หลับเลยตลอด 11 วันกับอีก 25 นาที ในระหว่างการทดลองโครงการทางวิทยาศาสตร์โครงการหนึ่ง ในตอนนั้นเอง เขาถูกสังเกตการณ์เกี่ยวกับการรับรู้ ความรู้สึก และความสามารถทางร่างกาย จนกระทั่งวันสุดท้ายของการทดลอง การ์เนอร์ได้เข้าร่วมแถลงข่าวโดยสามารถออกมาพูดได้ตามปกติไม่มีสะดุดใดๆ และที่น่าแปลกใจก็คือ ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับตัวของเขาเลยแม้แต่น้อย
9. คอนเซตตา แอนติโก หญิงสาวที่มองเห็นสีได้มากกว่าคนทั่วไป 10 เท่า
ศิลปินสาวจากแคลิฟอร์เนียผู้นี้มีภาวะเกี่ยวกับดวงตาที่เรียกว่า เตตราโครมาซี (Tetrachromacy) ซึ่งทำให้เธอสามารถมองเห็นสีที่แตกต่างกันได้มากกว่า 100 ล้านสี ในขณะที่คนทั่วไปจะจำแนกได้เพียง 10 ล้านสีเท่านั้น โดยและนั่นทำให้เธอสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีสีสันที่โดดเด่นได้มากกว่าคนอื่นๆ และเธอหวังว่าจะพัฒนาระบบการฝึกสอนที่ช่วยคนที่มีภาวะเดียวกับเธอ ในตระหนักถึงศักยภาพของตัวพวกเขาเองอีกด้วย
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ