ในขณะที่ทฤษฎีสมคบคิดส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ทฤษฎีสมคบคิดที่ฟังดูน่าเหลือเชื่อบางครั้งก็ทำให้หลายคนเชื่อและคิดว่ามันมีอยู่จริงได้ เช่นเดียวกับเรื่องการส่งคลื่นมาควบคุมสมองของมนุษย์ที่ถูกเรียกว่า V2K หรือ Voice to Skull ที่แปลตามตัวก็คือ ‘เสียงที่ถูกส่งเข้าไปในกระโหลก’ ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นให้ถูกพูดถึงมาแล้วทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเองก็ตาม
‘เอฟเฟกการได้ยินเสียงสัญญาณไมโครเวฟ’ (Microwave Auditory Effect)
ย้อนกลับไปในปี 1961 อัลลัน เอช. เฟรย์ นักประสาทวิทยาชาวอเมริกัน ได้ศึกษาปรากฎการณ์ ‘เอฟเฟกการได้ยินเสียงสัญญาณไมโครเวฟ’ ซึ่งนำไปสู่ผลการทดลองที่น่าสนใจหลังจากนั้น
เฟรย์ได้ทำการทดสอบกับผู้คนจำนวนหนึ่งและพบว่าผู้ถูกทดลองสามารถได้ยินการแผ่รังสีไมโครเวฟอย่างเป็นจังหวะ จากระยะใกล้แค่เพียงไม่กี่นิ้วจนไกลถึงหลายร้อยฟุตจากเครื่องส่งสัญญาณ ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากการขยายตัวเนื่องจากความร้อนของอวัยวะรับเสียงในช่องหู
การศึกษาดังกล่าวนำไปสู่ความพยายามในการสร้างอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ควบคุมสมองของมนุษย์ในภายหลัง แต่ก็ยังไม่เป็นผลเนื่องจากพบว่า ก่อนที่จะสร้างเสียงเข้าไปในหัวของผู้คน พวกเขาจะได้รับอันตรายจากปัจจัยอื่น ๆ เสียก่อน เช่นจากความร้อน
จุดเริ่มต้นของทฤษฎีสมคบคิด
มีบุคคลจำนวนมากที่พบว่าตนเองมีอาการประสาทหลอนทางหู พวกเขาอ้างว่ารัฐบาลใช้เทคโนโลยีในการควบคุมจิตใจบางอย่างโดยอาศัยสัญญาณไมโครเวฟเพื่อส่งเสียงความคิดเข้าไปในศีรษะของพวกเขา เทคโนโลยีดังกล่าวถูกอ้างว่ามันคือ Voice to Skull หรือ V2K
ทฤษฎีดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และเครือข่ายออนไลน์มากมายโดยเฉพาะผู้ที่กลัวการถูกควบคุมจิตใจ โดยส่วนใหญ่กล่าวหาว่ารัฐบาลได้ใช้เทคโนโลยี V2K ผ่านระบบดาวเทียมเพื่อติดตามคุณ รวมถึงการเข้าควบคุมจิตใจ (Mind Control) ล่วงรู้สิ่งที่คิดอยู่ในใจ และทำให้เกิดโรคร้ายอย่างเช่นมะเร็งได้
โดยผู้ที่อ้างว่าเป็นเหยื่อมักจะได้ยินเสียงภายในหัวของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกัน บางครั้งก็รุนแรงจนไปถึงเห็นภาพหลอน
ฮาวานาซินโดรม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2016 เจ้าหน้าที่ CIA รายหนึ่งได้เดินทางไปยังสำนักงานสุขภาพของสถานทูตอเมริกันในฮาวานา เมืองหลวงของประเทศคิวบา เขารู้สึกมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน หูอื้อ และปวดศีรษะ หลายวันต่อมาเจ้าหน้าที่ CIA อีก 2 รายก็มีอาการที่คล้ายกัน
ในตอนนั้นเองรัฐบาลสหรัฐอ้างว่า คิวบาอาจมีแผนการทำอะไรบางอย่างกับเจ้าหน้าที่รัฐของพวกเขาจนนำไปสู่อาการแปลกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ รัฐบาลสหรัฐจึงตัดสินใจลดจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตในคิวบาลงเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้
ต่อมา อาการดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่าเป็น “ฮาวานาซินโดรม” และก็มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกัน โดยหนึ่งในข้อสันนิษฐานที่หลายคนเชื่อก็คือ เหยื่อเหล่านี้ถูกโจมตีด้วยคลื่นไมโครเวฟในลักษณะเดียวกับ V2K ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ฮาวานาซินโดรมเกิดจากอะไรกันแน่
V2K มีจริงหรือไม่
ในขณะที่นักจิตวิทยาที่ได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างของผู้ที่อ้างว่าเคยถูกควบคุมจิตใจพบว่า พวกเขาเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะเป็น ‘โรคหลงผิด’ ภาวะทางจิตที่ผู้ป่วยมีอาการหลงผิดไปจากความเป็นจริง โดยเชื่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงจัง
ในปัจจุบัน ยังไม่มีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่า V2K เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าความพยายามจะเข้าควบคุมจิตใจมนุษย์จะเคยเป็นโครงการของ CIA มาตั้งแต่ในอดีตและล้มเหลวไปแล้วก็ตาม
แล้วคุณล่ะ คิดว่าเทคโนโลยี V2K มีอยู่จริงหรือไม่ มาลองแบ่งปันประสบการณ์กันได้เลยครับ
ที่มา : wikipedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
