การทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง พร้อมกับขับรถออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามใจปรารถนาถือเป็นชีวิตในฝันของใครหลาย ๆ คน และมันจะดียิ่งขึ้นถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงแสนรักที่อยู่ข้างกายติดตามไปด้วย แต่ในบางครั้ง ชีวิตจริงมันก็เลวร้ายและไม่ได้จบลงด้วยคำว่า Happy Ending เสมอไป
นี่คือเรื่องราวของ เจสซี โคเซคิน หนุ่มชาวบราซิลที่ตัดสินใจออกเดินทางจากประเทศบ้านเกิดของเขาไปยังรัฐแอลัสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยรถบีเทิลปี 1978 พร้อมกับ ‘ชูรัสเตย์’ สุนัขพันธุ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์ของเขา
ก่อนหน้านี้ เจสซีทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน Balneário Camboriú เมืองชายหาดทางตอนใต้ของบราซิล เขาใช้เวลาทำงาน 8 ถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาจึงคิดได้ว่า “ชีวิตเป็นมากกว่าแค่การรอคอย”
“ผมอยากทำอะไรใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไป บางสิ่งที่ทำให้ใจของผมเต้นรัว เป็นสิ่งที่ผมจะจดจำมันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและทำให้ผมยิ้มได้แบบไม่เหมือนที่ใด แค่ความทรงจำที่ทำให้ผมควรค่าแค่การมีชีวิตอยู่” เจสซีกล่าวบนเว็บไซต์ของเขา
ต่อมาเขาพบแรงบันดาลใจจากกลุ่มนักเดินทางแบ็กแพ็กเกอร์บนโซเชียลมีเดีย และเรื่องราวของผู้คนที่ออกเดินทางไปทั่วโลกโดยไม่มีเงินมากมาย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เจสซีตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดของเขาทันที และจากนั้นเขาก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปอาร์เจนตินา ในเดือนพฤษภาคม 2017
แน่นอนว่าเขาได้พาชูรัสเตย์ สุนัขพันธุ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์ที่เป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาติดตามไปด้วย
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เจสซีกับสุนัขของเขาได้เดินทางไปไกลกว่า 85,000 ไมล์ รวม 17 ประเทศ ผ่านอเมริกาใต้ เม็กซิโก และทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา โดยเป้าหมายของเขาคือการไปถึงแอลัสกา
แต่ชีวิตจริงไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาฝันไว้ เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจสซีได้ขับรถบีเทิลของเขาประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงหมายเลข 199 และนั่นส่งผลให้เขากับสุนัขแสนรักของเขาต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าพร้อมกัน
ปัจจุบัน เจสซีมีอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตามมากถึง 688K เขายังมีแบรนด์สินค้าที่เป็นชื่อเดียวกับชื่อสุนัขของเขาอีกด้วย ในขณะที่ผู้คนต่างมาร่วมไว้อาลัยในโพสต์สุดท้ายของเขากันอย่างมากมาย
โพสต์สุดท้ายของเขาได้กล่าวเอาไว้ว่าตนเองกำลังเดินทางเข้าแคนาดาแล้ว และในที่สุดก็ได้มุ่งหน้าสู่แอลัสกา แต่โชคร้ายที่เขาไม่มีโอกาสทำตามฝันของตนเองได้สำเร็จอีกแล้ว
ที่มา : instagram | เรียบเรียงโดย เพชรมายา