ในขณะที่โหราศาสตร์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาอย่างยาวนาน และถือว่าได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่คน Gen Y และ Gen Z แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการวิจัยที่พบว่า ผู้ที่เชื่อในการเคลื่อนที่ของดวงดาวจะมีความฉลาดน้อยกว่า และมีความหลงตัวเองมากกว่า
ผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Personality and Individual Differences โดยระบุว่ามีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ การศึกษาดาวเคราะห์และดวงจันทร์มีความสัมพันธ์กับบุคลิกภาพของเราที่เกิดจากระดับการหลงตัวเองที่สูงขึ้น
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลุนด์ในสวีเดนได้ทำการสำรวจผ่านทางออนไลน์ด้วยแบบสอบถามจำนวน 264 ข้อ โดยที่พวกเขาทำการสังเกตระดับของสติปัญญาและการหลงตัวเองผ่านแบบประเมินนี้
“ผลลัพธ์หลักแสดงให้เห็นว่า คนที่มีระดับความหลงตัวเองสูง ก็จะยิ่งมีความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่สูงขึ้นด้วย” รายงานระบุ
“ความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจเป็นเพราะการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง โดยสิ่งนี้จะต้องมีการทำงานวิจัยเพิ่มเติม”
นอกจากนั้นสิ่งที่มาควบคู่กันก็คือก็คือในเรื่องของระดับสติปัญญา “ยิ่งระดับสติปัญญาสูงเท่าไหร่ ความเชื่อในโหราศาสตร์ก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น”
นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า ผู้คนที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าใน “ดวงชะตา” จะขาดความสามารถด้าน “การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)” นั่นคือการคิดอย่างมีหลักการ เป็นเหตุเป็นผล สามารถสร้างสมมติฐานและหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้
และการขาดการคิดเชิงวิพากษ์จะนำไปสู่ความเชื่อในเรื่องของวิทยาศาสตร์เทียม (Pseudo Science)
รายงานระบุว่า “ความเชื่อในเรื่องโหราศาสตร์อาจดูเหมือนไร้เดียงสา แต่ก็เป็นไปได้ที่โหราศาสตร์จะเอื้อต่อการคิดที่ไร้เหตุผลและสนับสนุนอคติต่าง ๆ”
“นอกจากนี้ ความเชื่อในโหราศาสตร์ยังสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสตร์เทียมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่นเดียวกับความเชื่อในทฤษฎีสมคบคิด”
รายงานเสริมว่า “เนื่องจากการทำนายทางโหราศาสตร์และการดูดวงมีแนวโน้มที่จะถูกตีกรอบในเชิงบวก สิ่งนี้ทำให้รู้สึกถึงความขลังและดึงดูดผู้หลงตัวเองมากยิ่งขึ้น”
แล้วคุณล่ะ เป็นคนที่เชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์หรือไม่ และมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง
ที่มา : ladbible | เรียบเรียงโดย เพชรมายา