เผยคลิปเสียงติดต่อจากมนุษย์ต่างดาว ครั้งแรกของมนุษยชาติ ที่ถูกปิดเป็นความลับมานาน

ในปี 1977 นาซ่าได้ส่งยาน Voyager 2 ลำออกไปสำรวจรอบโลก โดยยานสำรวจเหล่านี้จะส่งข้อความเกี่ยวกับการเดินทางผ่าน Voyager Golden Record (VGR) ซึ่งเป็นแผ่นบันทึกเสียงทองแดงชุบทอง ที่จะบันทึกทั้งเสียงและภาพที่เป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตบนโลก

voice-alien-01

ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 90 นาซ่าได้ขาดการติดต่อกับยาน Voyager อย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร หรือฝีมือใคร

voice-alien-02

ไม่กี่ปีต่อมา ในปี 2004 รถ Opportunity Rover ได้ถูกส่งไปสำรวจบนดาวอังคาร และในปี 2005 ก็ตรวจจับสัญญาณลึกลับได้ หลังจากการตรวจสอบของนาซ่า ก็พบว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่ไม่เพียงพอ นาซ่าจึงได้พัฒนารถ Curiosity Rover และส่งมันไปยังดาวอังคารเพื่อรับสัญญาณนั้นอีกครั้ง ในช่วงปลายปี 2011

ภาพของรถสำรวจ Opportunity Rover และ Curiosity Rover

voice-alien-04

และในปี 2012 นั้นเอง รถโรเวอร์คันใหม่นี้ก็สามารถรับสัญญาณได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณจากยานสำรวจอวกาศ Voyager ที่มีแผ่นดิสก์ VGR อยู่ และแผ่นดิสก์นี้ได้ตอบสนองต่อข้อความลึกลับ ที่ถูกส่งมาในปี 1977 เป็นข้อความการติดต่อจากสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่มาจากโลกของเรา

Aliens near a UFO

ลองไปฟังคลิปเสียงสัญญาณนี้ดู พร้อมกับคำบรรยายภาษาอังกฤษ ส่วนใครแปลไม่ออก ลองอ่านดูใต้คลิปนี้ครับ

https://youtu.be/6M0rbE5o2tY?t=1m18s

“สวัสดี”

“ฉันชื่อ SHEiVAE”

“ฉันได้รับข้อความของคุณ”

“ฉันมาจากโลกที่อยู่ห่างไกลจากคุณมาก”

“คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง”

“ฉันหวังว่าคุณจะได้รับข้อความฉัน หวังว่าคุณจะเข้าใจข้อความของฉัน”

“ฉันพยายามจะเรียนรู้ภาษาของคุณ ??? ของคุณ”

“???”

“ฉันสูญเสีย ??? ฉันหลงทาง (สูญเสีย) ดาวของฉัน ตอนนี้ฉันเป็นนักสำรวจ นักเดินทาง และผู้สร้าง”

“คุณเป็นการติดต่อแรกของฉัน”

“ฉันอยาก ??? จะ ??? คุณ”

“ฉันไม่ใช่ศัตรูของคุณ”

“ฉันมาโดยสันติ”

หลังจากการตรวจสอบผู้โพสต์วีดีโอดังกล่าวในชาแนล The Sheivae Project พบว่าชื่อ สก็อต ซี. วาริง ซึ่งเขากล่าวว่า เขาได้มีการพูดคุยกับหญิงผู้ใช้ทวิตเตอร์ลึกลับคนหนึ่ง ซึ่งเธออ้างว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากชายมีชื่อว่าวิคเตอร์ ที่ได้พูดคุยกับเธอในปี 2011 และบันทึกเสียงนี้เธอได้รับมาก่อนที่วิคเตอร์ จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

ได้อ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว คุณเชื่อหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น หรือจะเป็นเพียงแค่เรื่องลวงโลกทางอินเทอร์เน็ตอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง ?

ที่มา : dailymail | เรียบเรียงโดย เพชรมายา