สิ่งเร้นลับบนโลกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถหาคำตอบให้กับมันได้ เช่นเดียวกับความเชื่อของเจ้าของธุรกิจโรงแรมบางกลุ่มที่ได้บอกเล่าความเชื่อของตนต่อๆ กันมาในหมู่นักเดินทางว่าโรงแรมส่วนใหญ่จะเก็บห้องไว้หนึ่งห้อง แม้ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวห้องพักจะไม่เพียงพอต่อแขกที่เข้ามาใช้บริการก็ตาม ก็จะไม่ปล่อยห้องที่เก็บไว้ให้แขกอื่นเด็ดขาด เพราะห้องนี้เปรียบเสมือนห้องปิดตายที่มีไว้รับรองแขกพิเศษ คือ ผี หรือวิญญาณนั่นเอง การที่โรงแรมจะมีผีหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ระบุตัวตนไม่ได้ สาเหตุก็มาจากการฆาตกรรม หรือไม่ก็อุบัติเหตุต่างๆ เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องเดินทางไปค้างคืนที่อื่นให้คุณโทรสำรองที่พักล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบาย แต่ถ้าคุณต้องไปหาที่พักเอาดาบหน้าเมื่อพนักงานโรงแรมได้บอกกับคุณว่าห้องพักเต็มหมดแล้ว ก็อย่าดื้อดึงแอบให้ทิปพิเศษแก่พนักงานเพียงเพื่อจะได้ห้องพักเพราะคุณอาจได้ห้องพิเศษ พร้อมกับเจอแขกพิเศษประจำห้องก็เป็นได้ และในบางครั้งแขกพิเศษที่ว่านั่นก็อาจแวะเวียนไปเยี่ยมห้องอื่นๆ ได้เช่นกัน และนี่คือ 9 ข้อสำคัญของนักเดินทางไว้ป้องกันผีหลอกในโรงแรม
1. เคาะประตูก่อนเข้าห้อง
ก่อนที่จะเข้าห้องพักให้เคาะประตูก่อน แม้คุณจะรู้ว่าไม่มีใครอยู่ในห้องก็ตาม และเมื่อคุณเข้ามาในห้องแล้วรู้สึกเย็นวาบไม่สบายใจ หรือขนลุกหวาดกลัวให้คุณบอกกับพนักงานยกกระเป๋าว่าขอเปลี่ยนห้อง โดยส่วนใหญ่แล้วพนักงานจะเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร แม้มันจะวุ่นวายเล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าต้องทนอยู่ในห้องด้วยความหวาดกลัว
2. ทำห้องให้ปลอดโปร่ง
เมื่อเข้ามาถึงห้องพักแล้วให้เปิดไฟทุกดวงเปิดม่านหน้าต่างทุกบาน เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องและช่วยให้อากาศถ่ายเทเป็นการรับพลังด้านบวก และไล่พลังงานด้านลบออกจากห้อง
3. จัดวางรองเท้าแก้เคล็ด
จัดวางรองเท้าหน้าประตูให้แต่ละคู่สลับหัวหางกัน เป็นการแสดงถึงหลัก “หยิน – หยาง” ให้เกิดความสมดุลในพลังด้านบวกกับพลังด้านลบที่หมุนเวียนอยู่ในห้อง เป็นการคุ้มครองให้นอนหลับฝันดี ไม่ฝันร้ายโดยเฉพาะฝันเห็นผี 
4.เปิดไฟทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งดวง
ก่อนเข้านอนอย่าปิดไฟจนภายในห้องมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย ให้เปิดไฟทิ้งไว้หนึ่งดวงที่ใดก็ได้ อาจจะโคมไฟที่เตียง ไฟหน้าห้องน้ำ ไฟโต๊ะเครื่องแป้งหรือไฟตรงทางเดิน เพราะเชื่อกันว่าที่ที่มีแสงสว่างจะทำให้ผีปรากฎตัวได้ยากกว่า 
5. อย่าปล่อยให้เตียงข้างๆว่างเปล่า
เมื่อต้องเข้าพักคนเดียว แต่ห้องพักเป็นเตียงคู่ก็อย่าเข้านอนโดยปล่อยให้อีกเตียงหนึ่งวางเปล่า ให้นำกระเป๋าหรือของที่ติดตัวมาด้วยไปวางไว้บนเตียง แต่ถ้ามาพักโดยไม่มีสัมภาระอะไรเลยก่อนนอนก็อาจดึงผ้าคลุมเตียง ขยับหมอน ผ้าห่ม ให้เหมือนกับว่ามีคนใช้แล้วเพื่อแสดงให้เห็นว่าเตียงนี้มีเจ้าของไม่ใช่เตียงว่างๆที่ใครจะมานอนได้อีก
6. ขยับเตียงออกจากที่เดิมเล็กน้อย
โดยปกติแล้วทางโรงแรมจะจัดเตียง หมอน ผ้าห่มไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนที่จะมีแขกเข้าพัก แต่เมื่อคุณเข้ามาแล้วให้ขยับเตียงออกจากที่เดิมเล็กน้อย เพื่อเป็นเคล็ดว่าเราไม่ได้ไปนอนทับที่ใครหรือเตียงของใคร ไม่อย่างนั้นตกดึกคุณอาจถูกผีอำ หายใจไม่ออกขยับตัวไม่ได้ก็เป็นได้
7. ผ้าคลุมกระจกกันสะท้อน
ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีใครนิยมนำโต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกวางไว้ปลายเตียงหรือแนวเดียวกับเตียงนอน แต่ถ้ามีพื้นที่จำกัดและจำเป็นจริงๆ ให้แก้โดยนำผ้ามาคลุมกระจกก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกใจเวลาที่ตื่นมากลางดึกแล้วเห็นเงาในกระจก 
8. พกเครื่องราง สร้อยพระ หรือสายสิญจน์
หากต้องเดินทางไปค้างคืนที่ที่ไม่คุ้นเคย และถ้าเป็นคนขึ้กลัวโดยทุนเดิมอยู่แล้วแนะนำว่าก่อนออกเดินทางให้พกเครื่องราง สร้อยพระ หรือสายสิญจน์ที่เคารพนับถือ เพื่อความสบายใจ
9. สวดมนต์หรือแผ่เมตตาก่อนนอน
เมื่อเราต้องไปนอนค้างคืนที่อื่นที่ไม่ใช่ถิ่นฐานบ้านของเราเอง ก่อนนอนให้สวดมนต์หรือแผ่เมตตาเพื่อขออนุญาตขอที่หลับนอน และขอขมาหากได้บังเอิญล่วงเกินสิ่งใดไปโดยไม่ได้ตั้งใจรวมทั้งขอให้คุ้มครองเราให้รอดพ้นจากสิ่งชั่วร้ายและนอนหลับฝันดี
ท่ี่มา : arunsawat
