ในปี 1996 เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัสเซียได้พบซากของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในเมือง Kyshtym เขตภูมิภาค Chelyabinsk ประเทศรัสเซีย และเนื่องจากแพทย์นิติเวชท้องถิ่นไม่สามารถระบุได้ว่า มันไม่ใช่ทั้งมนุษย์และสัตว์ ทางสื่อหลายๆ เจ้าจึงขนาดนามให้มันว่า มนุษย์ต่างดาวแห่ง Kyshtym
ต้นกำเนิดของเรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้ไม่เป็นที่แน่ชัด ข่าวลือแรกอ้างว่า มีหญิงชราคนหนึ่งนามว่า ทามารา โพรสวีรีนา ได้ยินเสียงในหัวของเธอบอกให้เธอไปที่สุสานของเมือง ซึ่งเธอก็ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวร่างเล็กที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอพามันกลับมาบ้าน ตั้งชื่อมันว่า อเลสเชนกา (Aleshenka) และนำมาเลี้ยงดูเหมือนลูก แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ต่างดาวเสียชีวิตในระหว่างที่เธอต้องเข้าการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียงไม่กี่สัปดาห์
ส่วนแหล่งที่มาอีกอื่นๆ บอกว่าซากมนุษย์ต่างดาวนี้ ถูกพบในบ้านของ วลาดิเมียร์ เนอร์ทดินอฟ ชายผู้ต้องสงสัยว่าขโมยสายไฟฟ้า จนถูกตำรวจบุกจับถึงบ้าน และก็พบกับเจ้าตัวนี้อยู่ในห่อผ้าสีแดง แต่เขาไม่เคยบอกว่าได้มันมาได้อย่างไร
หลังจากนั้น ดร. สตาโนสลาฟ ซาโมชกิน แพทย์ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นได้เข้ามาตรวจสอบร่างของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ โดยเขากล่าวว่า “สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน ในขณะที่กะโหลกศีรษะของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูก 6 ชิ้น แต่เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ มีกระดูกเพียง 4 ชิ้นเท่านั้น แถมยังมีความแตกต่างอื่นๆ ทางด้านโครงสร้างของกระดูกอีก ซึ่งมันไม่ได้เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดแต่อย่างใด”
ซากที่ถูกเชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวนี้มีความยาว 10 นิ้ว และมีขนาดหัวที่ใหญ่ผิดรูป เบ้าตาขนาดใหญ่ซึ่งกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของใบหน้า ลักษณะของมันใกล้เคียงกับมัมมี่ที่มีชื่อว่า Ata ซึ่งเป็นซากของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กคล้ายมนุษย์ ที่ถูกพบในทะเลทรายอทาคามา ในปี 2003 อีกด้วย
ท่ามกลางความวุ่นวายของการค้นพบซากมนุษย์ต่างดาวนี้ จู่ๆ มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยมันถูกขโมยไปจากห้องเก็บศพของโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีใครหามันพบอีกเลย ถึงแม้หลายปีต่อมา จะมีรายการทีวีของญี่ปุ่นในรางวัลกับผู้ที่สามารถหาร่างของมันมาได้ โดยให้รางวัลถึง 200,000 เหรียญ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี
จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเจ้าร่างของ อเลสเชนกา ไปอยู่ที่ไหนและอยู่กับใครกันแน่ เรื่องนี้จึงกลายเป็นตำนานลึกลับที่ยังหาบทสรุปไม่ได้ต่อไป
ที่มา : disclose | เรียบเรียงโดย เพชรมายา