นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มนามว่า แวนยู คราสเทฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 19 ปีก่อน หลังจากที่เขาตื่นนอนขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่า มีเส้นผมกองอยู่บนเตียงมากมาย เช้าวันต่อมา เขาก็พบว่าผมของตัวเองร่วงอยู่เต็มหมอน และฝันร้ายก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาพบว่าตัวเองเป็นโรคผมร่วงขั้นรุนแรงที่เรียกว่า Alopecia Universalis โดยไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นที่ร่วง แต่ขนทั่วทั้งตัวของเขาก็ร่วงหายไปหมดภายในไม่กี่สัปดาห์ เขาตกใจและสิ้นหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
หลังจากที่แวนยูพยายามหาทางรักษาทุกวิถีทาง แต่นั่นกลับทำให้ชีวิตของเขาจมดิ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาคิดได้ว่า ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปและควรยอมรับโรคนี้ว่ามันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปแล้ว และในที่สุด เขาก็ได้สร้างสรรค์โครงการที่ชื่อว่า Eyebombing Bulgaria โดยเป็นการสรุปข้อดีและข้อเสียของการเป็นโรคนี้ โดยมีจุดประสงค์เพียงแค่ต้องการรอยยิ้มของผู้คนจากชีวิตประจำวันที่แสนเบื่อหน่ายเท่านั้นเอง
Alopecia Universalis คือโรคนี้ทำให้ผมและขนร่วงทั่วร่างกาย มีผู้คนมากถึง 147 ล้านคน ที่เป็นโรค Alopecia Areata (ร่วงเฉพาะผม) ส่วนสาเหตุอาจมาจาก โรคแพ้ภูมิตัวเอง, ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีรูขุมขน และหยุดการเจริญเติบโตของเส้นผม
“ผมรู้สึกพิเศษ ไม่ได้แตกต่าง”
ข้อดี: ผมเหมาะที่สุดสำหรับงานศิลปะบนเรือนร่าง
ข้อเสีย: ผมรู้สึกหนาวหัวเวลาที่ไม่มีผมสักเส้น
ข้อดี: ผมไม่จำเป็นต้องสวมหมวกว่ายน้ำ
ข้อเสีย: หัวของผมจะถูกแดดเผาได้
ข้อดี: ผมสามารถประหยัดเงินค่าโกนหนวด
ข้อเสีย: คนอื่นชอบคิดว่าผมเป็นมะเร็ง
ข้อดี: ผมประหยัดเงินค่าแชมพู, ครีมนวด และค่าตัดผม
ข้อเสีย: การไม่มีขนตา ทำให้มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาผมได้ง่าย
ข้อดี: ผมไม่ต้องใช้หมวกคลุมผมอาบน้ำ
ข้อเสีย: ได้รับบาดเจ็บบนหนังศีรษะมากกว่าปกติ
ข้อดี: ไม่มีเส้นผมเกลื่อนในห้องน้ำ
ข้อเสีย: การไม่มีคิ้ว ทำให้เหงื่อไหลเข้าตาโดยตรง
ข้อดี: ผมไม่มีขนรักแร้
ข้อดี: ผมไม่มีขนจมูก
ข้อดี: ผมสามารถมีคิ้วคนละสีได้
โมนาลิซ่าก็ไม่มีคิ้วและขนตาเหมือนกัน
ผมสามารถวาดรูปตัวเองได้ง่าย
ข่าวร้าย: ไม่มีทางรักษาโรคผมร่วงนี้
ข่าวดี: พ่อแม่ส่วนใหญ่จะไม่ส่งต่อโรคผมร่วงไปสู่ลูกๆ
ข่าวดี: ผมมีครอบครัวที่ปกติสุข
ที่มา : nagrevatel.blog | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ