ป่าแอมะซอน ถือเป็นสถานที่ธรรมชาติที่มีความหลากลายทางชีววิทยามากที่สุดในโลก และมันคือหนึ่งในป่าที่อันตรายที่สุดในโลกเช่นกัน โดยคุณสามารถพบเจอสัตว์ที่ทำให้คุณขนหัวลุกได้หลายชนิด ตั้งแต่ปลาปิรันย่า งูอนาคอนด้า จนไปถึงปลิงยักษ์แอมะซอน
ปลิงหรือทากดูดเลือด ถือเป็นสิ่งมีชีวิตสุดสยองที่นักเดินป่าหลายคนคุ้นเคยกันดี ในขณะที่ปลิงส่วนใหญ่มีขนาดเล็กกว่านิ้วมือของคนทั่วไป แต่สำหรับปลิงยักษ์แอมะซอน (Amazon Giant Leech) มีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก
ปลิงยักษ์ชนิดนี้จะมีขนาดระหว่าง 30 ถึง 35 เซนติเมตร แต่ขนาดใหญ่ที่พบอาจยาวได้ถึง 46 เซนติเมตร และพวกมันถือเป็นสัตว์จำพวกปลิงน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ปลิงยักษ์แอมะซอน สามารถพบได้เฉพาะในป่าดิบชื้่นของดินแดนเฟรนช์เกียนาและพื้นที่ใกล้เคียงของประเทศบราซิล โดยถูกค้นพบครั้งแรกโดย วิตตอเร กิลิอานี นักธรรมชาติวิทยาชาวอิตาลี ตั้งแต่ปี 1849
ในช่วงเวลานั้นเอง ปลิงยักษ์แอมะซอนแทบจะเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาราวกับสัตว์ประหลาดในป่าลึก เนื่องจากขนาดที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน มีเรื่องเล่าที่บอกว่า พวกมันสามารถดูดเลือดของมนุษย์ที่โตเต็มวัยจนหมดตัวได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ย้อนกลับไปในปี 1899 มีคำกล่าวอ้างที่บอกว่า ปลิงยักษ์เหล่านี้สามารถรวมตัวกันเพื่อจัดการม้าและวัวได้ด้วยการดูดเลือด
ส่วนในทางวิทยาศาสตร์ พวกมันมีงวงแหลมเหมือนเข็มที่สามารถเจาะเข้าไปใต้ผิวหนังถึง 10 เซนติเมตร และสามารถดูดเลือดได้ในอัตรา 0.14 ถึง 15 มิลลิลิตรต่อนาที และน้ำหนักตัวของมันจะเพิ่มขึ้น 3 ถึง 6 เท่า การดูดเลือดเพียงครั้งเดียวทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ได้นานหลายเดือนโดยไม่ต้องกินอาหารอีกเลย
จริง ๆ แล้ว ปลิงยักษ์แอมะซอนได้รับการประกาศให้สูญพันธุ์ไปในปี 1893 ก่อนที่ในช่วงทศวรรษ 1970 ดร.รอย ซอว์เยอร์ ค้นพบตัวอย่างปลิงที่โตเต็มวัย 2 ตัว ภายในสระน้ำที่อยู่ในเฟรนช์เกียนา
หนึ่งในนั้นถูกตั้งชื่อว่า คุณยายโมเสส (Grandma Moses) ที่ประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์และสร้างอาณานิคมใหม่ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ตัวอย่างนี้ได้ให้กำเนิดลูกหลานถึง 750 ตัว
หลังจากคุณยายโมเสสเสียชีวิต ร่างของมันก็ถูกนำไปไว้ในคอลเลกชันสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังแห่งชาติของสถาบันสมิธโซเนียน
ที่มา: odditycentral | wikipedia