เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภาพถ่ายความละเอียดสูงภาพหนึ่งถูกเรียกว่าเป็น “ภาพถ่าย UFO ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อย
ภาพถ่ายดังกล่าวถูกถ่ายเมื่อ 50 ปีที่แล้วโดย เซอร์จิโอ โลไอซา ช่างภาพทางอากาศที่ทำงานให้กับรัฐบาลคอสตาริกา ในขณะที่เขากำลังนั่งเครื่องบินข้ามป่าทึบแห่งหนึ่ง
เขาใช้กล้องถ่ายภาพสร้างแผนที่ที่มีน้ำหนักถึง 45 กิโลกรัม เพื่อสำรวจแผ่นดินคอสตาริกาก่อนที่จะมีการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำใกล้กับภูเขาไฟอาเรนัล
เซอร์จิโอถ่ายภาพขาวดำความละเอียดสูงหลายภาพบริเวณทะเลสาบโคเตและป่าดงดิบโดยรอบที่ระดับความสูง 3,000 เมตร แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ หนึ่งในภาพถ่ายของเขาสามารถมองเห็น ‘จานบิน’ ที่ชัดเจนมาก อยู่ข้างใต้เครื่องบินของเขา
ที่น่าสนใจก็คือ วัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไรปรากฎขึ้นเพียงภาพเดียวจากภาพถ่ายทั้งหมด 300 ภาพ ซึ่งเซอร์จิโอกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเหล่านี้ทุก ๆ 20 วินาที
ในขณะนั้นเอง ไม่มีลูกเรือคนไหนบนเครื่องบินสังเกตเห็นวัตถุลึกลับนี้เลยแม้แต่คนเดียว
ลักษณะของจานบินลำดังกล่าวมีลักษณะเป็นทรงกลม และมียอดแหลมคล้ายลูกข่างกลับหัว ซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างจากจานบินที่เราเห็นในภาพยนตร์สักเท่าไหร่
จากข้อมูลของ UAP Media ระบุว่า เอสเตบัน คาร์ราซาน ผู้ที่คลั่งไคล้ UFO คือผู้ที่ได้รับสำเนาต้นฉบับของภาพนี้ต่อมาจากลุงของเขาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลุงของเขาได้รับมันมาจากสถาบันเนชันแล จีโอกราฟิก ในทศวรรษ 1970
จากนั้นเอสเตบันก็ส่งภาพไปยังห้องปฏิบัติการภาพถ่ายในแคนซัสที่มีเครื่อง Tango Drum Scanner ที่ถูกใช้สำหรับการสแกนคุณภาพสูง
ในขณะที่ ออสการ์ เซียร์รา นักวิจัยยูเอฟโอของคอสตาริกากล่าวว่า “มันเป็นหนึ่งในการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจที่สุดว่ายูเอฟโอมีจริง”
จริง ๆ แล้วภาพถ่ายดังกล่าวเคยถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์มาแล้ว แต่มันไม่เคยได้รับความสนใจจนกระทั่ง เลสลี คีน นักข่าวจาก The New Yorker ได้นำภาพถ่ายนี้มาประกอบในบทความที่ชื่อว่า “เพนตากอนเริ่มให้ความสนใจ UFO อย่างจริงจังแล้วหรือยัง” และเขาเรียกมันว่า “ภาพถ่าย UFO ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
เลสลีกล่าวว่า “มีวัตถุรูปทรงแผ่นดิสก์นี้ และคุณเห็นแสงอาทิตย์ที่สะท้อนลงบนวัตถุทรงกลมนี้อย่างชัดเจน ซึ่งมีจุดเล็ก ๆ อยู่ด้านบน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมันคือภาพถ่ายของรัฐบาล”
“มันอยู่ในการครอบครองของรัฐบาลคอสตาริกามาโดยตลอด ดังนั้นคุณจึงทราบได้ทันทีว่ามันคือของแท้และมันไม่สามารถอธิบายได้เลย”
แน่นอนว่าภาพถ่ายนี้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันทั่วโลกหลังจากที่มันถูกเผยแพร่สู่สาธารณะชนมาเมื่อไม่มานมานี้ บางคนก็เชื่อว่ามันคือของจริง แต่บางคนก็เชื่อว่ามันคือภาพจัดฉากหรือไม่ก็เป็นภาพตัดต่อโดยใช้เทคโนโลยีในสมัยนั้น
ที่มา : uapmedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา