แม้ว่านกคาสโซวารีจะขี้อายและชอบเก็บตัวอยู่ในป่าในแถบนิวกินีและออสเตรเลียตอนเหนือ แต่มันก็เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความความอันตราย เพราะถ้าคุณค้นหาคำว่า “นกที่อันตรายที่สุดในโลก” ชื่อของนกคาสโซวารีจะขึ้นมาเป็นอันดับแรก
คาสโซวารี เป็นญาติกับนกอีมูและเป็นหนึ่งในนกที่ไม่สามารถบินได้ ดังนั้นความเกรี้ยวกราดของมันจึงถูกมนุษย์พบเห็นได้อยู่เสมอ คาสโซวารีสามารถจัดการผู้ใหญ่ตัวโต ๆ ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยกรงเล็บของมันที่ดูคล้ายกับกรงเล็บเวโลซีแรปเตอร์
ต้นกำเนิดระหว่างมนุษย์กับนกคาสโซวารี
ย้อนกลับไปเมื่อ 18,000 ปีก่อน มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในนิวกินีเริ่มเรียนรู้ในการเพาะเลี้ยงนกคาสโซวารีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างแรกสุดที่มนุษย์รู้จักในการเพาะพันธุ์นก ซึ่งเกิดขึ้นเป็นพัน ๆ ปี ก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการเลี้ยงไก่
มนุษย์กลุ่มแรกเดินทางมาถึงนิวกินีอย่างน้อยประมาณ 42,000 ปีก่อน พวกเขาตัดสินใจตั้งถิ่นฐานบริเวณป่าดิบชื้นที่รายล้อมไปด้วยนกคาสโซวารีที่ขี้หงุดหงิด แต่ก็ไม่เกินความสามารถของมนุษย์ที่จะนำมันมาเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการนำไข่และตัวอ่อนมารับประทาน
ในปัจจุบัน นกคาสโซวารีจะมีพันธุ์แยกย่อยไปอีกหลายสายพันธุ์ แต่คาสโซวารีที่ใหญ่ที่สุดจะมีความสูงได้ถึง 180 เซนติเมตร และมีน้ำหนักถึง 72 กิโลกรัม รูปร่างของพวกมันดูแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าพวกมันสืบเชื้อสายมาจากไดโนเสาร์ โดยเฉพาะกรงเล็บเท้าของพวกมันที่ดูแข็งแกร่งและเหมือนกับไดโนเสาร์อย่างมาก
ขาอันทรงพลังของนกคาสโซวารีทำให้มันสามารถวิ่งได้เร็วถึง 51 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระโดดได้สูงถึง 7 ฟุต แถมยังเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งกาจอีกด้วย
คาสโซวารีเป็นนกที่มีความอยากรู้อยากเห็นและโจมตีมนุษย์เป็นบางครั้งถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยเกิดขึ้นก็ตาม แต่หากว่ามีมนุษย์เข้าไปใกล้เพื่อยั่วยุมันก็อาจโดนมันกระโดดถีบได้ โดยมีรายงานเกี่ยวกับมนุษย์ที่ถูกนกคาสโซวารีจู่โจมมาตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนแล้ว หลังจากนั้นก็มีรายงานเกี่ยวกับผู้คนที่ถูกนกคาสโซวารีจู่โจมอยู่เรื่อย ๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านกเหล่านี้ทำไปเพราะถูกมนุษย์ยั่วยุเท่านั้น
หากคุณมีโอกาสได้ไปที่สวนสัตว์ พวกเขาจะอธิบายอยู่เสมอว่ามันคือนกที่มีความก้าวร้าว ดังนั้นสิ่งที่ห้ามทำก็คือการไปยั่วยุให้มันโกรธเด็ดขาด
ที่มา : nytimes | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
