ย้อนกลับไปกลางเดือนพฤศจิกายนปี 1974 ในขณะที่ จิโอวานนา เซนโซลี หญิงสาวชาวอิตาลีกำลังดูแลสัตว์ในฟาร์มข้างบ้าน จู่ ๆ พวกสัตว์ก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ ไก่และกระต่ายออกวิ่งไปมาราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่าง จากนั้นก็วิ่งไปซ่อนตัวอยู่ตามซอกตามมุม
จิโอวานนามองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น และสังเกตเห็นไก่บางตัวมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อเธอแหงนหน้ามองตามขึ้นไปและได้พบกับ “ผู้ชาย” ที่นั่งอยู่บนกล่องที่แกว่งไปมาสูงเหนือจากหลังคาบ้านเธอประมาณ 4 เมตร และดูเหมือนเขากำลังมองไปรอบ ๆ ราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
“เขาตัวใหญ่ สูงประมาณ 2 เมตรและสวมเสื้อผ้าแวววาวโดยมีเครื่องหมายสีเขียว แดง และขาว รวมถึงสวมรองเท้าสกีที่มีหัวรองเท้าและส้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม” จิโอวานนากล่าว
“รูปร่างของเขาดูดำมืด มีหมวกที่มีกระจกใสบังหน้าเอาไว้ ฉันมองเห็นแค่ตาของเขา ซึ่งค่อนข้างเหมือนกับเราพอสมควร และเราต่างสบตากันเพียงชั่วครู่เท่านั้น”
“ชายคนนี้ลอยอยู่กลางอากาศเหนือบ้าน โยกตัวไปมาโดยมีเท้าข้างหนึ่งเหยียดลงไปที่หลังคาราวกับว่าเขาต้องการพยุงตัวอยู่บนนั้น ‘กล่อง’ ที่เขานั่งมีความลึกและกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ไม่แน่ใจว่ายาวเท่าไหร่ มีแท่งที่มีแถบสีตั้งขึ้นมา มันต้องเอาไว้ใช้ควบคุมเครื่องยนต์แน่ ๆ เพราะมีเสียงดังที่ฉันได้ยินชัดเจนมาก”
“ฉันรู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พยายามตะโกนเรียกแม่หลายครั้งแต่แม่ก็ไม่ตอบในทันที และอาจเป็นเพราะเสียงตะโกนของฉัน ชายคนนั้นจึงค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปทางทิศตะวันออกอย่างช้า ๆ ผ่านพื้นที่ลานนวดข้าวของเราที่กว้างประมาณ 20 เมตร”
“ฉันวิ่งไปยังทิศทางเดียวกับที่ชายคนนั้นกำลังมองอยู่ จากนั้นก็เห็นแสงที่สว่างมากใหญ่เท่ากับดวงจันทร์มาจากทางเหนือและเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกอย่างช้า ๆ”
“ทันทีที่ฉันเห็นมัน ฉันถูกคลื่นความร้อนเข้าปกคลุมแม้ว่าตอนนั้นจะมีหมอกเล็กน้อย ส่วนบริเวณรอบ ๆ บ้านก็สว่างไสวขึ้นเป็นเวลาไม่กี่วินาทีราวกับเป็นช่วงเวลากลางวัน”
“หลังจากที่เขาผ่านลานนอดข้าวไปแล้ว ชายคนนั้นก็หยุดอยู่เหนือกองฟางที่แบนราบราวกับจะไปจอดบนนั้น ฉันเข้าไปหาเขาอีกครั้ง และงุนงงกับท่าทางของเขา เป็นอีกครั้งที่เราจ้องมองกัน ซึ่งครั้งนี้เราห่างกันแค่ 3 เมตร”
“ในชั่วพริบตาต่อมา เขาก็จากไป มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกโดยมีแสงนั้นตามหลังไปห่าง ๆ”
จิโอวานนาเล่าต่อไปว่า ทิศทางที่ชายคนนั้นพุ่งไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสุสานขนาดเล็กของวิหารซานเคลเมนเตที่ตั้งอยู่บนเนินเขา
“ฉันเฝ้าดู 2 สิ่ง… คนกับแสง… หมุนวนรอบสุสานหลายรอบ และก็หยุดลงแค่เพียงไม่กี่วินาที ในที่สุดแม่ของฉันก็ออกมา ฉันให้แม่ดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แม่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เธอบอกแค่เพียงว่าน นั่นต้องเป็นนักกระโดดร่มแน่ๆ”
“เธอสามารถเห็นบางอย่างได้จากระยะไกล แต่น่าเสียดายที่แม่ไม่สามารถแยกแยะรายละเอียดที่สามารถยืนยันคำพูดของฉันได้”
“ฉันไม่เห็นแสงสว่างนั้นอีกแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นต้องหยุดลงที่สุสานและค้างคืนอยู่ที่นั่นแน่”
“เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาประมาณ 15 นาทีได้”
กรณีการพบเห็นนี้ถือว่าแปลกและแตกต่างจากการพบเห็น UFO โดยทั่วไปอย่างมาก และก็ไม่เคยมีใครพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของมนุษย์ประหลาดผู้นี้ได้เลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ที่มา: nexusnewsfeed