สายการบินเอมิเรตส์เฉลย เบื้องหลังแอร์สาวยืนบนยอดตึกที่สูงที่สุดในโลก

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สายการบินเอมิเรตส์ได้สร้างกระแสให้เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลหลังจากที่พวกเขาเปิดตัวโฆษณาที่น่าสนใจในแบบที่ไม่มีสายการบินไหนทำได้แบบนี้มาก่อน

โฆษณาดังกล่าวเปิดตัวด้วยภาพของพนักงานต้อนรับสาวบนเครื่องบินที่เปิดป้ายข้อความไปทีละภาพ ซึ่งดูเป็นมุกธรรมดา ๆ ที่เราเห็นกันได้ทั่วไป

ข้อความดังกล่าวเขียนเอาไว้ว่า “การที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดอยู่ใน Amber List ของสหราชอาณาจักร ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก บินกับเอมิเรตส์ บินที่ดีกว่า”

สำหรับสหราชอาณาจักรได้ทำการแบ่งกลุ่มประเทศต่าง ๆ เอาไว้ 3 ประเภท คือ Green (เขียว), Amber (เหลือง) และ Red (แดง) โดยกลุ่มประเทศใน Amber List จะสามารถเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้ แต่ต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางและหลังถึงจุดหมายปลายทางแล้ว โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่งถูกเลื่อนสถานะจาก Red List มาเมื่อไม่นานนี้

ภาพโฆษณาที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เมื่อกล้องได้ซูมออกมาจะเห็นได้ว่า แอร์สาวของเอมิเรตส์กำลังยืนอยู่บนยอดตึก Burj Khalifa ที่ได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก

ลองไปชมคลิปที่กลายเป็นกระแสนี้ โดยมียอดวิวมากถึง 2.8 ล้านวิวภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

หลังจากที่เปิดตัวโฆษณาชุดนี้ไปไม่นานก็ได้กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลทันที แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือ มีชาวเน็ตพยายามถกเถียงกันว่า เธอได้ขึ้นไปยืนบนยอดตึกที่สูงที่สุดในโลกจริงหรือไม่ หรือจริง ๆ แล้วเป็นเพียงแค่การใช้ CGI เท่านั้น เพราะจะมีสักกี่คนที่จะไปยืนอยู่บนยอดตึกสูงที่ลมพัดแรงขนาดนั้นได้

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ทางเอมิเรตส์ได้ออกมาเปิดเผยคลิปเบื้องหลังที่แสดงให้เห็นว่า เธอยืนอยู่บนตึกที่สูง 828 เมตรเหนือพื้นดินจริง โดยใช้การถ่ายทำด้วยโดรนเพียงตัวเดียวเท่านั้น

สำหรับแอร์สาวผู้กล้าของสายการบินเอมิเรตส์คนนี้มีชื่อว่า นิโคล สมิธ-ลุดวิก

การถ่ายทำบนยอดตึกที่สูงที่สุดในโลกจำเป็นต้องมีการวางแผนที่เข้มงวดมาก ๆ เพราะจะพลาดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

นิโคลมีการเตรียมซ้อมถือป้าย รวมถึงการใส่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยให้กับตัวเธออย่างแน่นหนา

จากชั้นที่ 160 นิโคลและทีมงานต้องปีนขึ้นไปบนยอดตึกโดยใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะถึงจุดถ่ายทำ

และมันเป็นหนึ่งในการถ่ายทำโฆษณาที่สูงที่สุดในโลก

คลิปวิดีโอเบื้องหลังทั้งหมดที่กลายเป็นกระแสในเวลาต่อมาเช่นกัน

ที่มา : Instagram | youtube.com | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ