การหยิบยกเอาคุณสมบัติของมนุษย์ไปเปรียบเปรยกับสัตว์ เกิดขึ้นมานานมากตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เรามักเรียกคนตะกละว่าเหมือนหมู ซนเหมือนลิง เชื่องช้าเหมือนเต่า ซื่อสัตย์เหมือนสุนัข และนั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับ อเลสซานโดร กัลโล ศิลปินชาวอิตาเลียน ที่ได้หยิบมนุษย์มาเปรียบเทียบกับสัตว์ต่างๆ ผ่านงานประติมากรรมอันน่าทึ่งของเขา ด้วยการจับมนุษย์และสัตว์มารวมร่างกัน จนเกิดเป็นผลงานที่ชื่อว่า “Strange Encounters”
กัลโล เป็นศิลปินที่รู้จักกันดีถึงฝีมือในการสร้างงานประติมากรรมที่แตกต่าง โดยเฉพาะการสร้าง “คนครึ่งสัตว์” ที่ร่างกายเป็นคน แต่มีศีรษะเป็นสัตว์
งานของกัลโลเป็นอะไรที่มากกว่ารูปปั้น ความหมายที่ซ่อนอยู่ในผลงานแต่ละชิ้น ล้วนแต่เชิญชวนให้ผู้เสพมาตีความทั้งสิ้น
ผลงานแปลกๆ ของกัลโล คุณมองออกหรือไม่ว่าเขากำลังสื่ออะไรให้พวกเขาให้เห็น ?
อเลสซานโดร กัลโล เกิดในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี โดยปัจจุบันเขามีอายุ 45 ปี แต่เดิมทีเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยทางด้านกฏหมาย ในปี 1997
แต่สิ่งที่เขาชื่นชอบมากกว่ากฏหมายก็คือการวาดรูปและงานศิลปะ และนั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ลอนดอนตอนอายุ 24 ปี เพื่อที่จะสมัครเรียนในวิทยาลัยศิลปะเซนต์มาร์ติน
ในระหว่างที่กำลังศึกษา กัลโลได้ทำงานเป็นจิตรกรและมัณฑนากร และตอนนั้นเองที่เขาเริ่มหันมาศึกษาเรื่อง “ดิจิตอลอาร์ต”
การใช้โปรแกรม Photoshop เริ่มมีบทบาทสำคัญในงานของเขามากขึ้น เช่นการตัดต่อสัตว์ต่างๆ เพื่อเข้ามาอยู่ในเมือง อย่างเช่น การตัดต่อภาพหมีขาวให้มายืนอยู่ในขบวนรถไฟใต้ดิน
จนกระทั่งในปี 2005 เขาได้สร้างงานปั้นดินเหนียว “ตุ๊กตาลาในชุดสูท” ขึ้นเป็นครั้งแรก
ทำไมถึงต้องเป็นสัตว์ ? กัลโลกล่าวว่า “สัตว์แสดงถึงลักษณะทางชีวภาพและรูปแบบพฤติกรรมที่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับมนุษย์ได้”
“ศีรษะของสัตว์เป็นตัวแทนของตัวตนพื้นฐานของเรา เหมือนกับมรดกทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษ แต่มันรวมไปถึงความเชื่อทางวัฒนธรรมหรือแม้แต่สภาวะทางอารมณ์ชั่วคราวในจิตใจเราด้วย”
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างสรรค์ของศิลปินชาวอิตาเลียนผู้นี้ ที่คนธรรมดาอีกหลายคนไม่อาจเข้าใจได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้ติดตามผลงานที่น่าสนใจของเขาบนอินสตาแกรมกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา : Alessandro Gallo | Instagram | Facebook | Boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ