ผลจากการลักลอบล่าสัตว์ ทำให้ธรรมชาติสร้างช้างที่ไม่มีงาเกิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ

มีมหาเศรษฐีมากมายที่ชื่นชอบในการสะสมของหรูหรามีราคา ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับ เสื้อผ้า ภาพวาด รถยนต์ หรือแม้แต่บางสิ่งหายากที่ไม่ควรนำมาสะสมอย่างเช่น อวัยวะต่างๆ ที่มาจากสัตว์ โดยนักสะสมเหล่านี้ก็เหมือนผู้สนับสนุนทางตรงให้เกิดการลักลอบล่าสัตว์อย่างผิดกฏหมาย และมันเป็นการทารุณกรรมสัตว์อย่างโหดร้ายในแบบที่เราคาดไม่ถึง

วันนี้เพชรมายาจึงขอพาทุกท่านมาชมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ เมื่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในอุทยานแห่งชาติโกรอนโกซา ในประเทศโมซัมบิก เพิ่งสังเกตเห็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติบางอย่าง

อ้างอิงข้อมูลจากเนชันแนล จีโอกราฟฟิก ช้างสูงอายุส่วนใหญ่ที่สามารถรอดชีวิตมาจากสงครามกลางเมืองได้เนื่องจากพวกมัน “ไม่มีงา”

งาช้าง ถือเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงมาก มีความเชื่อว่างาช้างสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ และมันจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายด้านต่างๆ ผู้คนบางกลุ่มก็นำงาช้างมาทำเป็นเครื่องประดับที่มีราคาแพง ถึงแม้จะมีกฏหมายคุ้มครอบแต่ช้างจำนวนมากทั้งในเอเชียและแอฟริกาก็ถูกล่างาเพื่อผลประโยชน์ของมนุษย์มานานนับศตวรรษ แล้วมันส่งผลอะไรบ้างกับช้างในปัจจุบันนี้ ?

นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้พบว่า มีช้างมากถึง 1 ใน 3 ของโมซัมบิกไม่มีงา

ในอดีตที่ผ่านมา มีช้างเพียงแค่ 4% เท่านั้นที่ไม่มีงา เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณช้างทั้งหมด ซึ่งช้างเหล่านี้ไม่เคยถูกล่าเลย พวกมันจึงสามารถใช้ชีวิตเติบโตและใช้กำเนิดลูกหลานที่ไม่มีงาเพิ่มขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่ผลการศึกษานี้ได้แพร่กระจายออกไป หลายคนเรียกว่า นี่คือการตอบโต้ทางธรรมชาติที่มีให้กับมนุษย์

ด้วยำจำนวนของช้างไร้งาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ จะเป็นตัวหยุดยั้งธุรกิจผิดกฏหมายเหล่านี้ แต่ในทางกลับกัน การที่มีอะไรก็ตามเปลี่ยนแปลงไปในธรรมชาติ แม้แค่เพียงปีผีเสื้อขยับ ก็อาจส่งผลต่อไปถึงระบบนิเวศน์โดยรวมทั้งหมดได้ ถึงแม้ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เองจะยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ตาม

แต่สิ่งที่จะวิเคราะห์ได้ก็คือ งาของช้างก็คือฟันที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีขนาดใหญ่และยื่นยาวออกมา และมันถูกใช้ในทำสิ่งต่างๆ เช่น การขุดหาน้ำ หาเกลือหรือรากไม้ ใช้ขูดเปลือกไม้เพื่อที่จะกินเปลือกไม้ ใช้ในการย้ายต้นไม้เพื่อเปิดเส้นทาง หรือใช้ทำสัญลักษณ์ในการสร้างอาณาเขต แต่การที่ช้างไม่มีงาก็จะทำให้วิถีชีวิตของพวกมันเปลี่ยนไปเช่นกัน

นอกจากนั้น นักวิทย์ยังได้มองว่า การที่ช้างไม่มีงาก็อาจส่งผลต่อระบบนิเวศน์ของสัตว์อื่น เช่น มีกิ้งก่าบางชนิดที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ที่ถูกช้างใช้งาทำเป็นรอยและเป็นโพรง ซึ่งการที่ช้างไร้งาเพิ่มขึ้น มันอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรของสัตว์อ่นๆ ได้เช่นกัน

เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้ หลายคนคงมองแล้วว่า ช้างกำลังวิวัฒนาการตัวเองเพื่อความอยู่รอด และหากมนุษย์ยังมีความโลภที่ส่งผลไปถึงชีวิตของผู้อื่น เราก็อาจเห็นสัตว์เหล่านี้ค่อยๆ สูญพันธ์ลงไปในไม่ช้า

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ