คุณเคยรู้สึกหรือไม่ว่า บรรยากาศในแต่ละฤดูมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณจะรู้สึกได้ถึงแสงแดดที่เจิดจ้าในช่วงฤดูร้อน แต่ในฤดูฝนเรามักจะเจอความมืดครึ้มที่ต่างออกไป ส่วนในฤดูหนาวเมืองไทย เราแทบไม่ได้มีโอกาสสัมผัสแบบจริงๆ จังๆ แต่เท่าที่เคยมีประสบการณ์ไอเย็นที่พัดผ่าน ก็ทำให้เรารู้ว่ามันช่างแตกต่างจากฤดูร้อนเสียเหลือเกิน
ด้วยความแตกต่างของฤดูกาลเหล่านี้จึงทำให้กลุ่มช่างภาพชาวออสเตรเลียจากเว็บไซต์ Budget Direct ได้ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของฤดูกาลแบบสากลทั้ง 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว มารวมไว้ในภาพเดียว และนั่นทำให้เราได้รู้ว่า สถานที่แต่ละแห่ง เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนไป บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน
1. ไร่องุ่น Elqui, ประเทศชิลี
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวยังไร่องุ่นแห่งนี้คือเดือนกุมภาพันธ์จนไปถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งช่วงเวลาในแต่ละฤดูก็มีความโดดเด่น เนื่องจากสีของไร่องุ่นที่เเปลี่ยนไปตั้งแต่เขียว น้ำตาล เทา จนไปถึงขาว
2. ผาหิน Shaman Rock, ประเทศรัสเซีย
ผาหินแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Olkhon ในทะลสาบไบคาล ทางภาคกลางจนไปถึงตะวันออกของรัสเซีย เกาะแห่งนี้ต็มไปด้วยสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จนกลายเป็นที่แสวงบุญของบรรดาหมอผี (Shaman แปลว่าหมอผี) ยอดเขา 2 ด้านที่ตั้งตระหง่านกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดบนเกาะ ซึ่งในแต่ละฤดูเราจะเห็นได้ถึงความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน
3. โถงทางเดิน Bethesda, ประเทศสหรัฐอเมริกา
ถ้าพูดถึงนิวยอร์ก คุณอาจนึกไปถึงบรรดาตึกสูงและผู้คนที่วุ่นวาย แต่ Bethesda Terrace ที่ตั้งอยู่ใจกลางเซ็นทรัลปาร์ค เปรียบเสมือนกับโอเอซิสที่จะทำให้คุณได้พบกับความสงบ และธรรมชาติที่ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ก็ทำให้บรรยากาศในแต่ละฤดูกาลนั้นดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
4. พระราชวังนิมเฟนบูร์ก, ประเทศเยอรมนี
พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1664 โดยถูกใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์วิทเทิลแบช และช่วงฤดูร้อนนี้เองก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเยี่ยมชมด้านใน ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณจะพบได้ถึงความแตกต่างของแต่ละฤดูกาลที่เห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว
5. กัลลิณรัถ (ศิลารถม้า) แห่งวัดวิฐลา, ประเทศอินเดีย
ถือเป็นสถาปัตยกรรมของชาวฮินดูที่โดดเด่น ศิลารถม้านี้เป็นตัวแทนยานพาหนะของพระวิษณุในศาสนาฮินดู ถึงแม้ตามวัฒนธรรมของอินเดียจะแบ่งฤดูกาลออกเป็น 6 ฤดู แต่กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย ก็มีการแบ่งเป็น 4 ฤดูเหมือนกับสากลได้ช่นกัน
6. อัฒจันทร์โรมัน, ประเทศบัลแกเรีย
อัฒจันทร์โบราณแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 2 โดยตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาทั้ง 6 ในแถบที่ราบธราเซียน ที่นี่เป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในยุโรป และชาวบัลแกเรียจะต้องพบกับฤดูร้อนอันยาวนาน และฤดูใบไม้ร่วงที่หนาวเย็น
7. อุทยานแห่งชาติเมาท์วอร์นนิง, ประเทศออสเตรเลีย
อุทยานแห่งชาติที่นิวเซาท์เวลส์แห่งนี้ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน นอกจากนั้นมันยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีป่าฝน มีชายหาด และเป็นบ้านของดอกไม้และสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงจิงโจ้ที่เป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียอีกด้วย
8. โบสถ์วิทยาลัยคิงส์คอลเลจ, มหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน, ประเทศสกอตแลนด์
นี่คือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน โดยโบสถ์แห่งนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1495 ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณนี้มีสภาพอากาศที่ดีที่สุด และเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศแจ่มใสมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
ที่มา : boredpanda | budgetdirect.com.au | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ