Parlor Roller นกพิราบที่สร้างขึ้นให้บินไม่ได้ แต่ตีลังกากลับหลังได้เท่านั้น

บนโลกเราใบนี้นกมากกว่า 20,000 สายพันธุ์ แต่มีแค่ 60 กว่าสายพันธุ์เท่านั้นที่ไม่สามารถใช้ปีกของมันโบยบินไปบนท้องฟ้าได้ ซึ่งนกที่เรารู้จักกันดี เช่น นกเพนกวิน นกกระจอกเทศ นกอีมู นกคาสโซวารี หรือนกกีวี แต่มีนกเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้นที่บินไม่ได้ที่เกิดมาจากฝีมือของมนุษย์

นกพิราบ Parlor Roller คือนกเพียงชนิดเดียวที่ถูกเพาะพันธุ์โดยมนุษย์เพื่อให้มันสูญเสียความสามารถในการบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่นั่นไม่ใช่ความแปลกประหลาดที่สุดของมัน เพราะนกพิราบชนิดนี้ใช้วิธีเคลื่อนที่ด้วยวิธี “ตีลังกากลับหลัง” เท่านั้น

เมื่อเห็นนกพิราบกลิ้งไปบนพื้นคุณอาจคิดว่ามันมีอาการผิดปกติบางอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นคือธรรมชาติของนกชนิดนี้ที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นมา ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านกพิราบสายพันธุ์นี้ถูกสร้างขึ้นมาทำไมหรือเมื่อไหร่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าต้นกำเนิดของมันมีมานานกว่า 200 ปีแล้ว

ย้อนกลับไปในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ได้มีการค้นพบนกพิราบที่ใช้วิธีกลิ้งไปบนพื้นแทนที่จะเป็นการบิน อาจเป็นเพราะร่างกายมันผิดปกติทางร่างกายหรืออย่างไรไม่ทราบได้ แต่มีคนเลือกที่จะเพาะพันธุ์นกพิราบเหล่านี้ขึ้นมาโดยใช้วิธี “คัดเลือกพันธุ์” สืบต่อกันเป็นเวลาหลายสิบปี จนกระทั่งพวกเขาได้นกพิราบสายพันธุ์แท้ที่ใช้วิธีกลิ้งไปมาแทนที่จะบินไปในอากาศ

นกพิราบ Parlor Roller ดูจากภายนอกแทบไม่มีความแตกต่างจากนกพิราบโดยทั่วไป โดยมันมีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 200-300 กรัม และมีสีสันที่หลากหลาย สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากนกพิราบสายพันธุ์อื่นก็คือไม่สามารถบินได้ และใช้วิธีตีลังกากลับหลังบนพื้นแทน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อวัยวะของมันมีพร้อมสำหรับการบินเหมือนนกพิราบปกติ และน้ำหนักของมันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการบินขึ้นฟ้า แต่มันเพียงแค่ “ไม่บิน” ขึ้นไปเท่านั้น ไม่มีใครทราบสาเหตุว่ามันเป็นเพราะอะไรทำไมมันถึงบินไม่ได้ แต่บางคนเชื่อว่าพวกมันมีความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับวิธีควบคุมการทรงตัวของสมอง

และการที่ นกพิราบ Parlor Roller ใช้วิธีกลิ้งไปมาบนพื้นจึงทำให้มันกลายเป็นที่นิยมสำหรับผู้ชื่นชอบของแปลกที่จะเลี้ยงมันไว้เพื่อนำมาเล่นสนุกเหมือนกับการดูลูกโบว์ลิงที่มีชีวิต พวกมันสามารถกลิ้งไปได้เรื่อย ๆ หลายร้อยฟุต และสถิติการกลิ้งไกลที่สุดที่นกพิราบชนิดนี้ทำไว้ก็คือ 662 ฟุต ซึ่งพอ ๆ กับสนามฟุตบอล 2 สนามวางต่อกัน

ด้วยความสามารถของมันขนาดนี้จึงทำให้นักเล่นนกพิราบชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในประเภท Flying/Sporting หรือเป็นนกพิราบที่ถูกนำมาแข่งขันบินเป็นกีฬา แม้ว่ามันจะใช้วิธีการกลิ้งแทนบินก็ตาม แต่ผู้ที่เล่นนกพิราบชนิดนี้จะสนใจเพียงแค่ความสามารถในการกลิ้งของพวกมันเท่านั้น ส่วนเรื่องรูปลักษณ์สวยงามถือเป็นเรื่องรอง

และแน่นอนว่านกพิราบชนิดนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันว่ามันควรจะมีอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปหรือไม่ เพราะนักอนุรักษ์สัตว์ต่างมองว่าพวกมันควรถูกปล่อยให้สูญพันธุ์ไปได้แล้ว

ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ