Isdal Woman คือชื่อของคดีปริศนานี้ถูกเล่าขานมานานหลายสิบปี และได้ชื่อว่าหนึ่งคดีที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าของคดีนี้แม้แต่น้อย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1970 ครอบครัวหนึ่งได้ไปปีนเขายัง Isdalen Valley ในเมืองแบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ และบังเอิญพบกับศพของผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนเสียชีวิตอยู่ในระหว่างกองหินก้อนใหญ่
คาร์ล ฮัลวอร์ อาส ตำรวจที่ไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุคนแรกกล่าว่า สิ่งแรกที่เขารู้สึกได้ก็คือกลิ่นของเนื้อที่ไหม้ลอยเข้ามาเตะจมูกรุนแรงมาก ไม่มีใครที่ทราบว่าเธอเป็นใคร ดังนั้นเธอจึงถูกเรียกตามชื่อสถานที่ว่า Isdal Woman
หลังจากตรวจสอบศพของหญิงปริศนาผู้นี้ก็พบว่ามีรอยไหม้เกรียมบริเวณใบหน้าและตามร่างกายด้านหน้า ลายนิ้วมือบางส่วนของเธอถูกลอกออกจากนิ้ว แขนของเธออยู่ในท่า “ตั้งการ์ด” เหมือนกับนักมวย ดูราวกับกำลังป้องกันตัวจากอะไรสักอย่าง
สิ่งของที่ตำรวจสามารถนำมาจากร่างกายของเธอได้มีทั้งเครื่องประดับ ร่มที่หัก ขวด นาฬิกา เศษถุงน่องไนลอน และรองเท้าบูทยาง
เครื่องประดับและนาฬิกาถูกพบอยู่ข้างศพของเธอ ดูราวกับตั้งใจวางเอาไว้ตรงนั้น ฉลากที่ระบุยี่ห้อเสื้อผ้าของเธอถูกดึงออกทั้งหมด รวมถึงขวดที่ถูกพบในตัวเธอก็ถูกลอกฉลากออกเช่นกัน
จากการชันสูตรศพของเธออย่างละเอียดก็พบว่า มียานอนหลับในท้องของเธออยู่ประมาณ 50-70 เม็ด ร่างกายเธอยังไม่ได้ดูซึมยาเหล่านั้นก่อนที่เธอจะตาย
ภายในปอดของเธอเต็มไปด้วยควันที่สูดเข้าไป นั่นแสดงว่า เธอยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ร่างกายของเธอกำลังถูกไฟไหม้
จากคดีที่ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตายธรรมเริ่มดูลึกลับมากยิ่งขึ้น ประชาชนเริ่มให้ความสนใจเนื่องจากในประเทศนอร์เวย์เองมีสถิติการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำมาก แถมคดีนี้ยังดูลึกลับและไม่ธรรมดาอีกด้วย
เป็นเวลา 3 วันหลังจากพบศพ ตำรวจได้พบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ภายในกระเป๋าใบหนึ่งมีแว่นตาที่มีรอยนิ้วมือของเธอติดอยู่บนเลนส์ ซึ่งนี่เป็นหลักฐานว่าเธอเป็นเจ้าของกระเป๋า
นอกจากนั้นในกระเป๋าทั้ง 2 ใบยังมีทั้งเสื้อผ้า วิกผม แปรงหวีผม เครื่องสำอาง และเงินของนอร์เวย์และเยอรมนี รวมถึงเหรียญจากเบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ
นอกจากนั้นยังมีหลอดยาทาโรคผิวหนังที่ถูกลอกฉลากออก เพื่อไม่ให้มีใครรู้ชื่อของเธอหรือแพทย์ผู้จ่ายยา
สิ่งหนึ่งที่ดูน่าแปลกประหลาดที่สุดก็คือ แผ่นกระดาษที่จดบันทึกตัวเลขรหัสบางอย่างด้วยปากกาสีน้ำเงิน ในตอนแรกตำรวจไม่เข้าใจรหัสเหล่านี้ ภายหลังถึงทราบว่ามันสอดคล้องกับที่พักของเธอในเมืองต่างๆ เธอเดินทางไปทั่วนอร์เวย์และยุโรปด้วยพาสปอร์ตปลอมอย่างน้อย 8 เล่ม
พยานที่เคยเห็นเธอกล่าวว่า เธอมีอายุราว 30-40 ปี ความสูงราว 164 ซม. สวมวิกและพูดได้ทั้งภาษาฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และดัตช์ เธอเข้าพักอยู่หลายโรงแรมในเมืองแบร์เกน และเปลี่ยนห้องพักไปเรื่อยๆ หลังจากเช็คอินแล้ว เธอบอกกับพนักงานว่าเธอเป็นเซลส์นักเดินทางและนักสะสมของเก่า
บางถึงจุดนี้ หลายคนเชื่อว่าเธอน่าจะเป็น “สายลับ” ที่เคยเดินทางมาแล้วทั่วยุโรปและถูกฆ่าปิดปาก ซึ่งในเวลานั้นเองเป็นช่วงของสงครามเย็น ส่วนบางคนก็เชื่อว่าเธอฆ่าตัวตายเอง แต่ถึงแม้ตำรวจจะยิ่งสืบค้นเกี่ยวกับตัวเธอมากเท่าไหร่ คดีนี้ก็ยิ่งเป็นปริศนามากขึ้นเท่านั้น ลายนิ้วมือของเธอไม่ตรงกับใครเลย ราวกับเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก
สรุปแล้วคดี Isdal Woman เองก็ยังคงกลายเป็นคดีที่ลึกลับที่สุดคดีหนึ่งจนถึงทุกวันนี้ แล้วคุณล่ะมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคดีปริศนานี้บ้าง
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : buzzfeed | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
