นี่คือชายผู้ถูกเลี้ยงไว้ในกรงราวกับสัตว์ กับจุดจบในชีวิตอันน่าเศร้า

หลายๆ คนคงทราบกันดีว่า ในสมัยอดีตนั้น ในแต่ละประเทศทั่วโลกยังมีระบบทาส ที่ชาวแอฟริกันส่วนมากจะถูกพาตัวมาจากบ้านเกิดของพวกเขา เพื่อนำมาใช้แรงงาน คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องมนุษยธรรม เพราะการใช้แรงงานทาส ถือเป็นเรื่องธรรมมากในสมัยนั้น

โอตา เบงกา ชายชนเผ่าปิ๊กมี่ชาวคองโก ถือเป็นอีกหนึ่งคนในยุคนั้น ที่ต้องตกเป็นทาสให้กับชนผิวขาว เขาสูญเสียภรรยาและลูกๆ เมื่อเบลเยียมบุกยึดคองโกในปี 1904 จนกระทั่งมีชาวอเมริกันที่ชื่อว่า ซามูเอล ฟิลลิปส์ เวอร์เนอร์ ได้ซื้อตัวเขาไปโดยนำเกลือหนัก 1 ปอนด์และเสื้อผ้าบางส่วนไปแลกมา

ota-benga-03

เวอร์เนอร์ ได้นำตัวของเบงกา ไปโชว์ตัวที่นิทรรศการซื้อขายหลุยส์เซียนา โดยเขาถูกยัดเยียดให้เป็น “มนุษย์กินคนแอฟริกันในอเมริกาของแท้” ฝูงชนในเวลานั้นรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฟันของเขา ที่ดูแหลมคมราวกับสัตว์ป่า

ota-benga-02

ต่อมา เวอร์เนอร์ได้นำตัวของเบงกา ไปยังสอนสัตว์บรอนซ์ ซึ่งเป็นสถานที่ๆ เรียกว่า “สวนสัตว์มนุษย์” โดยมีชาวคองโกมากมาย ถูกบังคับให้อาศัยอยู่กับลิง ภายในกรงของสวนสัตว์

Animal kingdom

ในสวนสัตว์แห่งนี้ เขาถูกเลี้ยงราวโดยไม่ต่างอะไรกับสัตว์ตัวหนึ่ง ที่ถูกขังอยู่ในกรง ต่อมา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 อุบัติขึ้น สวนสัตว์แห่งนี้จึงต้องถูกปิดตัวเอง ส่วนเบงกาได้ถูกส่งมอบให้กับ เจมส์ เอ็ม. กอร์ดอน ผู้ที่ช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้กับเขาในเวอร์จิเนีย

ota-benga-04

ณ ตอนนี้ โอตา เบงกา ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในแอฟริกาได้อีกต่อไป เขากลายเป็นโรคซึมเศร้า จนกระทั่งตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองลง เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปี 1916 แต่เบงกาไม่ใช่เพียงคนเดียว ที่ถูกจัดแสดงในสวนสัตว์มนุษย์ ยังมีชายอีกคนที่ชื่อว่า อิชิ ที่อยู่จัดแสดงในสวนสัตว์ที่แคลิฟอร์เนีย โดยเขาได้ฆ่าตัวตายหลังจากการเสียชีวิตของเบงกาเพียงไม่กี่วัน

ota-benga-05

ร่างของโอตา เบงกา ถูกฝังอยู่ในสุสานแห่งหนึ่งในเมืองลินเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ต่อมาหลานชายของเวอร์เนอร์ ได้เขียนหนังสือที่มีรายละเอียดอันน่าเศร้าของเขา โดยเขาพบหน้ากากและเฝือกของเบงกา ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในแมนฮัตตัน ซึ่งป้ายที่ระบุข้อมูลได้เขียนเอาไว้ว่า “ปิ๊กมี่” แทนที่จะเขียนชื่อของเขา “โอตา เบงกา”

ที่มา : viralnova | เรียบเรียงโดย เพชรมายา