คุณลุงวัย 60 ใช้ไม่ถึง 1 ปี เปลี่ยนหุ่นหมีให้เฟิร์มเป๊ะราวกับนายแบบ

หากคุณได้พบกับ สตีฟ แรมส์เดน ในตอนนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าเมื่อเกือบ 1 ปีก่อน เขาเป็นคุณลุงที่เป็นเบาหวาน มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน และมีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลสูง แต่เรื่องราวต่อไปนี้ได้แสดงให้เห็นว่า สตีฟทำงานหนักแค่ไหนกว่าที่จะมีร่างกายเป็นเหมือนทุกวันนี้

สตีฟ แรมส์เดน มีอาชีพเป็นแพทย์ประจำแผนกบริการรถฉุกเฉินของยอร์กเชียร์ โดยเขามีน้ำหนักตัวถึง 100 กิโลกรัมเมื่อวันคริสต์มาสปีที่แล้ว และต้องกินยาเพื่อควบคุมระดับคอเลสตอรอลในร่างกายที่สูงกว่าปกติ

แต่ปัจจุบันสตีฟมีน้ำหนักเหลือเพียง 72 กิโลกรัม แต่ที่สำคัญคือรูปร่างของเขาดูราวกับคนที่เขายิมเพื่อออกกำลังกายอย่างหนักมานานหลายปี

จุดเริ่มต้นของสตีฟเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีก่อน จากการที่มีอาการปวดหลังอย่างต่อเนื่องที่มาจากการแบกคนไข้ในการทำงานประจำของเขา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยมีเป้าหมายคือต้องการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่เขารักให้นานที่สุด

โชคดีที่ แดน แรมส์เดน ลูกชายของเขาเป็นเจ้าของโรงยิม และพาคุณพ่อไปสู่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

“พ่อเป็นคนเข้มแข็งและเป็นลูกผู้ชายอยู่เสมอ จนกระทั่งเขาดูเหมือนกำลังหลงทางและสูญเสียความมั่นใจไปเมื่อมีอายุมากขึ้น” แดนกล่าว

“พ่อออกกำลังกายภายใต้หลักสูตรที่เข้มข้น 12 สัปดาห์ และเขามีระเบียบวินัยจริง ๆ น้ำหนักเขาลดไปเป็นสิบกิโล จากนั้นก็เลิกดื่มเลิกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งหมด”

“อายุเป็นเพียงตัวเลข และการเปลี่ยนชีวิตของพ่อผมเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมจริง ๆ สิ่งนี้มันพิเศษมาก” แดนกล่าวเสริม

สตีฟเองก็ภูมิใจอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงของเขาเช่นกัน เขาไม่ต้องกังวลกับปัญหาเบาหวานอีกต่อไป น้ำหนักก็น้อยที่สุดเท่าที่เขาจำได้ในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของเขา และเขาสามารถมองเห็นกล้ามท้องตัวเองได้อีกครั้ง เขาแทบจะไม่ดื่มอีกแล้ว รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และพยายามใช้ชีวิตอย่างสมดุล

“ผมพาผู้คนที่อายุน้อยกว่าผมขึ้นรถพยาบาล พวกเขาไม่แข็งแรงเพราะไม่ได้ดูแลตัวเอง พวกเขาไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย” คุณลุงวัย 60 ปีกล่าว

“การที่น้ำหนักลดไปเกือบ 30 กิโลมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกดีขึ้นมากทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผมด้วย”

ปัจจุบัน สตีฟ แรมส์เดน ได้เปิดอินสตาแกรมในชื่อ @rambosixty เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการออกกำลังกายของเขา กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ดำเนินตามรอยของเขาต่อไป

 ที่มา: instagramodditycentral