ถ้าพูดถึงหนึ่งในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือประเทศญี่ปุ่น หากใครที่ได้มีโอกาสไปญี่ปุ่นคงจะทราบกันดีว่าเราสามารถไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยการเดินทางผ่านรถไฟสายต่างๆ ซึ่งรถไฟเหล่านี้ก็ถือเป็นวิธีการเดินทางหลักของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย โดยหลายคนอาจไม่ทราบว่า สถานีรถไฟที่คึกคักที่สุด 45 จาก 51 สถานี อยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
วันนี้เพชรมายาจึงขอพาทุกท่านมารู้จักรถไฟของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ซันไรส์ เอ็กเพรส (Sunrise Express) ที่ให้บริการเส้นทางรถไฟ 2 สายได้แก่ ซันไรส์ อิซูโมะ (Sunrise Izumo) และ ซันไรส์ เซโตะ (Sunrise Seto) ที่เป็นรถไฟตู้นอนที่ให้บริการเป็นประจำตู้เดียวในญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 ขบวนนี้จะพาผู้โดยสารจากกรุงโตเกียวไปยังจังหวัดโอคายามา และแยกไปยังปลายทางที่ต่างกัน
ซันไรส์ อิซูโมะ จะมุ่งหน้าไปยังปลายทางในเมืองอิซูโมะ ที่อยู่ในภูมิภาคจูโกกุ ในขณะที่ ซันไรส์ เซโตะ จะพาคุณไปยังเมืองทาคามัตสึ ในภูมิภาคชิโกกุ ซึ่งเวลาที่ต้องเดินทางกลับ ทั้ง 2 ขบวนนี้ก็จะกลับมาร่วมเส้นทางเดียวกันอีกครั้งที่โอคายามา เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่โตเกียว
แน่นอนว่านี่คือการเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนซึ่งเหลือเพียงขบวนเดียวในญี่ปุ่น ดังนั้นคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาตินอกเมืองในแบบที่คนญี่ปุ่นน้อยคนเองจะได้สัมผัสมาก่อน
ห้องโดยสารชั้นหนึ่ง (First Class)
ห้องโดยสารชั้นหนึ่งของรถไฟตู้นอนจะถูกเรียกว่า ซิงเกิล ดีลักซ์ (Single Deluxe) หรือ เอคลาส (A Class) ซึ่งมันดูเหมือนห้องขนาดเล็กสำหรับคนแค่คนเดียว มีโต๊ะ เก้าอี้ อ่างล้างหน้าส่วนตัวที่อยู่ข้างเตียง วิทยุ โคมไฟ รองเท้าสลิปเปอร์ เสื้อคลุมอาบน้ำ และเครื่องใช้ในห้องน้ำ และคุณยังสามารถเข้าใช้ห้องอาบน้ำได้ฟรีอีกด้วย
ห้องโดยสารชั้นสอง (Second Class)
หรือเรียกว่าห้อง บีคลาส (B Class) โดยจะมีเตียงแบบต่างๆ ให้เลือกไม่ว่าจะเป็นแบบ โซโล่ (Solo) ที่มีพื้นที่คับแคบที่สุด แบบซิงเกิล (Single) ที่มีขนาดกว้างเพิ่มขึ้นมาอีกนิด และแบบ ซิงเกิล ทวิน (Single Twin) ที่เป็นเตียง 2 ชั้น ซึ่งทุกห้องจะมีประตูปิดพร้อมกับตั้งรหัสผ่านเพื่อความเป็นส่วนตัว
แต่ถ้าหากคุณต้องการนอนในราคาประหยัด นี่คือ โนบิโนบิ (Nobinobi)
นี่ไม่ใช่ห้อง แต่มันเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่แบ่งเป็น 2 ชั้น คือชั้นบนกับชั้นล่าง ที่คุณสามารถข้าไปนอนหลับได้ โดยมีที่กั้นเล็กๆ ระหว่างคนข้างๆ
แต่คุณก็ยังมีหน้าต่างที่สามารถมองออกไปชมวิวทิวทัศน์ข้างนอกได้เช่นกัน และที่สำคัญ นี่ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวแต่เป็นพื้นที่ส่วนรวมที่คุณสามารถพบปะกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้
พูดถึงห้องอาบน้ำ สำหรับใครที่จองแบบชั้นหนึ่งคุณก็จะสามารถใช้ห้องอาบน้ำได้ฟรี แต่สำหรับผู้โดยสารประเภทอื่นๆ คุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับห้องอาบน้ำ โดยน้ำจะไหลออกมาโดยมีเวลานับถอยหลังแค่เพียง 6 นาที ถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับการถูสบู่ สระผม และล้างทุกอย่างออกให้หมดภายในเวลาที่จำกัด
นอกจากนั้นก็ยังมีบาร์ ห้องสูบบุหรี่ ตู้กดน้ำอัตโนมัติ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณเวลาที่ต้องอาศัยอยู่บนรถไฟเป็นเวลานาน
และนี่ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่ใช่รถไฟตู้นอนที่หรูหราเหมือนกับรถไฟตู้นอนอื่นๆ ที่เปิดเป็นช่วงเวลา แต่ก็ถือว่าเป็นการนั่งรถไฟแบบข้ามคืนที่ได้บรรยากาศไปอีกแบบ โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบในการไปเที่ยวญี่ปุ่นล่ะก็ อาจต้องไปลองรถไฟขบวนนี้สักครั้งในชีวิต
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา