ย้อนกลับไปในอดีต พี่น้องตระกูลแมคโดนัลด์ตัดสินใจเปิดร้านอาหารของพวกเขาเองเป็นครั้งแรกในปี 1940 แต่ความสำเร็จที่แท้จริงมาจากความชาญฉลาดของนักธุรกิจที่ชื่อเรย์ คร็อก ทำให้เขาปลดหนี้สินที่มีจนหมด เมื่อเขาเสียชีวิต ทรัพย์สินของเขามีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านบาท
เรื่องราวของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนและยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย ในปี 2019 แมคโดนัลด์คือ 1 ใน 10 แบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยมีร้านอาหารในเครือมากกว่า 37,000 แห่งที่พร้อมให้บริการลูกค้ามากกว่า 70 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละวัน วันนี้เพชรมายาจะอยากพาทุกท่านไปชมข้อเท็จจริงต่าง ๆ จากร้านแมคโนดัลด์ ที่คุณเองอาจไม่เคยรู้มาก่อน
A. ลักษณะพิเศษของเมนู
1. เมนูที่นำวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นและเอกลักษณ์แมคโดนัลด์มาผสมผสานกัน เพื่อให้ลูกค้าในแต่ละประเทศคุ้นเคย ยกตัวอย่างเช่นในประเทศจีน พวกเขานำเสนอเบอร์เกอร์ที่เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกย่าง ส่วนที่ประเทศสิงคโปร์พวกเขาเลือกที่จะใช้เค้กข้าวทอดแทนขนมปังแบบปกติ นี่คือการนำเสนอความหลากหลายไม่รู้จบในแต่ละประเทศที่เปิดบริการ
2. ไม่มีเมนูลับใด ๆ ที่ซับซ้อน แต่รายการอาหารในร้านสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ คุณสามารถเพิ่มหรือนำส่วนผสมในรายการอาหารออกได้ สร้างเครื่องดื่มที่คุณต้องการ ไอศกรีมหรือเบอร์เกอร์ในแบบของคุณ ตัวอย่างเช่นคุณสามารถสั่งเบอร์เกอร์ที่ไม่มีชีสหรือเนื้อสัตว์เลยก็ได้
3. บ่อยครั้งที่ชื่อของเมนูอาหารและเครื่องดื่มแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ในบางประเทศมีกฎหมายที่ห้ามไม่ให้แมคโดนัลด์เรียกเครื่องดื่มที่ผสมไอศกรีมลงไปว่ามิลค์เชค เนื่องจากมีส่วนผสมของนมพร่องมันเนย
4. กาแฟก็แตกต่างกันไปเช่นกัน แต่ละประเทศมีการใช้ส่วนผสมของกาแฟที่แตกต่างกันไป
5. ในประเทศอิสราเอล มีร้านอาหารแมคโดนัลด์แบบ “โคเชอร์” ซึ่งเป็นอาหารที่ถูกต้องตามหลักศาสนาของชาวยิว ซึ่งเมนูของร้านส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเมนูทั่วไปอีกด้วย
6. โคคา โคล่า มีรสชาติแตกต่างจากที่คุณซื้อมาจากร้านค้าทั่วไป น้ำหวานจะถูกส่งมาในถังเหล็กและเครื่องจักรสำหรับกดน้ำถูกตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมเอาไว้เพื่อทำให้รสชาติคงที่ เครื่องกดน้ำจะใส่โซดาลงไปก่อนจากนั้นเติมน้ำหวาน ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ
7. เป็นที่รู้กันว่าในบางประเทศ มันฝรั่งทอดหรือเฟรนช์ฟรายที่ร้านแมคโดนัลด์มีสูตรลับเฉพาะตัว โดยการใช้สารปรุงแต่งธรรมชาติที่ให้รสชาติเหมือนเนื้อ
8. ในเมนูอาหารเช้า พวกเขาใช้ไข่เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร ซึ่งมันแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศรวมทั้งวิธีการปรุง เช่นในไทยมีเมนูโจ๊กที่หลายประเทศไม่มี
9. เนื้อหมูในเบอร์เกอร์ทำจากหมูสับที่ใส่โรสแมรี่ เสจและพริกไทยหลากชนิด
10. นักเก็ตมีรูปทรงแตกต่างกันถึง 4 แบบ ได้แก่ กระดูก (bone), กระดิ่ง (bell), รองเท้าบูท (boot) และลูกบอล (ball) ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะจะได้สะดวกในการจิ้มซอส โดยส่วนผสมจะมีแต่เนื้ออกไก่และไม่มีส่วนอื่นเจือปน ปรุงรสแค่เกลือ พริกไทยและผักชีฝรั่งเท่านั้น
11. เมนูแมคฟิชเกิดขึ้นในปี 1962 หลังจากที่ ลู โกรน หนึ่งในเจ้าของแฟรนชายส์แมคโดนัลด์ในโอไฮโอ ทราบว่ายอดขายของพวกเขาตกลงในวันศุกร์เนื่องจากลูกค้าที่เป็นคริสเตียนโรมันคาทอลิกไม่กินเนื้อในวันดังกล่าว แต่สามารถกินปลาได้
12. เบอร์เกอร์มาตรฐานไม่มีส่วนผสมของหัวหอมสดแต่ใช้หัวหอมแห้งแทน พวกมันถูกดึงน้ำออกไปจนแห้งและจะกลับสู่สภาพปกติเมื่อแช่ลงในน้ำ
B. การดำเนินธุรกิจ
13. แมคโดนัลด์ใช้เงินลงทุนมหาศาลในการปรับปรุงเมนูและสอนพนักงานของพวกเขา มีมหาวิทยาลัยแฮมเบอร์เกอร์ที่มีสาขาทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งมีการสอนเพื่อพัฒนาทักษะผู้นำของนักเรียน เรียนรู้การจัดการผู้คนรวมถึงการทำงานกับลูกค้า ในปี 2011 มีนักเรียน 275,000 ที่จบการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้
14. นับตั้งแต่ปี 1986 นักเศรษฐศาสตร์ได้ประเมินค่าครองชีพในแต่ละประเทศไว้ตามฐานของดัชนีบิกแมค: ซึ่งมาจากราคาพื้นฐานของเบอร์เกอร์ชนิดนี้ที่จำหน่ายทั่วโลก
15. ในบางพื้น มีกฎหมายห้ามไม่ให้เปิดร้านอาหารประเภทแฟรนชายส์ เช่น ร้านแมคโดนัลด์ที่เปิดให้บริการในปี 1985 ในสถานีกองทัพอากาศสหรัฐในหมู่เกาะเบอร์มิวดา เมื่อสถานีต้องปิดตัวลงในปี 1995 ร้านแมคโดนัลด์ก็ถูกขอให้ปิดตามไปด้วย เนื่องจากรัฐบาลต้องการสนับสนุนร้านอาหารของคนท้องถิ่น
16. นาซ่าทำงานร่วมกันกับแมคโดนัลด์มาช้านาน ในฮูสตันไม่ไกลจากศูนย์อวกาศ มีร้านอาหารที่มีนักบินอวกาศอยู่บนหลังคา ในปี 1990 พวกเขาวางแผนภารกิจในการไปที่ดาวเคราะห์น้อย 449 Hamburga
17. อย่างไรก็ตาม ม้วนฟีลม์ดั้งเดิมที่มีภาพจากภารกิจบนดวงจันทร์ยังถูกเก็บรักษาไว้ที่ร้านแมคโดนัลด์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วในเขตของสถาบัน NASA Ames
18. กล่องเมนูแฮปปี้มีลบางเวอร์ชั่น มีเส้นประที่ช่วยให้เปลี่ยนส่วนล่างของกล่องให้กลายเป็นถาดได้ เพื่อให้เด็ก ๆ กินอาหารได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
19. แต่ละประเทศมีเมนูที่นำเสนอเครื่องดื่มและอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก ยกตัวอย่างเช่น นม น้ำแร่ ซีเรียล แอปเปิ้ลชิ้น เบบี้แครอท ออมเล็ตและสลัด
20. ดิสนีย์ไม่อยากมีส่วนร่วมในการทำให้เด็กเกิดโรคอ้วน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แมคโดนัลด์ไม่ขายของเล่นจากดิสนีย์อีก
C. สิ่งที่ผู้บริโภคควรทราบ
21. แม้แต่อาหารเพื่อสุขภาพก็อาจเพิ่มน้ำหนักในตัวคุณได้ เชื่อหรือไม่ว่าเมนูสลัดมีแคลอรี่มากกว่าเบอร์เกอร์มาตรฐานซะอีก ซีซาร์สลัดให้พลังงาน 345 แคลอรี่ในขณะที่ชีสเบอร์เกอร์ปกติให้พลังงานเพียง 296 แคลอรี่เท่านั้น ทางที่ดีคุณควรตรวจสอบคุณค่าของรายการอาหารก่อนที่คุณจะสั่งซะก่อน
22. หลายคนทานสลัดของแมคโดนัลด์ผิดวิธี วิธีที่ถูกต้องคือการเปิดบรรจุภัณฑ์ เติมน้ำสลัด ปิดฝาและเขย่าสัก 20-30 วินาทีเพื่อให้ส่วนผสมคลุกเคล้ากับน้ำสลัดจนทั่ว
23. แมคฟิชมีชีสแค่ครึ่งแผ่นเท่านั้น ในขณะที่เบอร์เกอร์ปกติมีชีสขนาดเต็มแผ่น
24. หนึ่งในการผสมผสานที่พิสดารที่สุด คือการจิ้มเฟรนช์ฟรายส์ลงไปในมิลค์เชคหรือไอศกรีม
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ