สาวจีนคนหนึ่งถูกบังคับให้ต้องโกหกคุณยายของเธอ และถึงกับต้องจ้างคนมาทำแบบเดียวกันเป็นเวลานานถึง 13 ปี แต่มันเป็นการโกหกเพื่อไม่ให้หัวใจของหญิงชราต้องแตกสลาย เรื่องนี้จะฟังดูสมเหตุสมผลหรือไม่ ลองไปชมกัน
เฉิง จิ้ง หญิงวัย 46 ปีจากซีอานเพิ่งเสียคุณยายอายุ 100 ปีของเธอไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เธอทำทุกอย่างเพื่อโกหกยายของเธอว่าแม่ของเธอที่เป็นลูกสาวของคุณยายยังมีชีวิตอยู่
แม่ของนางเฉิงเสียชีวิตไปในปี 2003 แต่นี่คือข่าวร้ายที่สะเทือนใจเธออย่างมาก แต่มันอาจแย่ไปกว่านั้นถ้าเกิดยายของเธอรู้เรื่องนี้ ดังนั้นนางเฉิงจึงหาคนที่สามารถเลียนเสียงแม่ของเธอหลอกคุณยายมาตลอดนับตั้งแต่นั้น
ทำไมต้องหลอกคุณยาย
แม่ของนางเฉิงสนิทกับคุณยายอย่างมาก จนกระทั่งในปี 2003 แม่ของเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่ปอดและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หลังจากนั้นแม่กับยายก็คุยกันบ่อยขึ้น และมักจะบอกกับยายเสมอว่าไม่เป็นไร
การหลอกลวงในครั้งนี้ไม่ใช่มีแค่นางเฉิงคนเดียว แต่แม่ของเธอในตอนนั้นก็ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ แม่ของนางเฉิงพยายามบันทึกข้อความเสียงเอาไว้เป็นจำนวนมาก และขอให้หลาน ๆ มาช่วยเล่นกับคุณยายเพื่อทำให้หญิงชราไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้
คำขอครั้งสุดท้ายของแม่คือการหลอกคุณยายต่อไปว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ และนางเฉิงก็เคารพในการตัดสินใจของแม่ในครั้งนี้ หลังจากนั้นเธอก็ใช้ข้อความเสียงที่แม่อัดไว้พูดคุยกับคุณยาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำตอบที่เอาไว้ตอบคำถามของคุณยายที่ชอบไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ
แต่ข้อความเสียงก็ใช้ได้แค่เพียงไม่นาน ในไม่ช้านางเฉิงก็ตระหนักว่าคุณยายของเธออาจจะจับผิดได้ นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจหาใครบางคนที่จะเลียนแบบเสียงของแม่ให้ได้แนบเนียนที่สุด เพื่อที่จะได้โทรไปหาคุณยายและยืนยันว่าทุกอย่างยังปกติดี
นางเฉิน เว่ยผิง (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า เว่ยผิง เพื่อกันความสับสนนะครับ) คือคนที่ยินดีจะมารับบทบาทนี้หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดและรู้สึกสงสารหญิงชราจับใจ เธอพยายามฝึกเลียนแบบเสียงของแม่นางเฉิงอย่างหนัก แต่การโทรศัพท์ไปหาคุณยายครั้งแรกกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อคุณยายสงสัยว่ากำลังพูดอยู่กับใคร คุณยายรู้ได้ทันทีว่าเสียงดังกล่าวไม่ใช่เสียงลูกสาวเธอ
ถึงแม้ว่าเว่ยผิงจะยืนยันว่าตนเองเป็นลูกสาว แต่หญิงชราก็ยังถามอยู่ตลอดเวลาว่าใครอยู่ที่ปลายสายกันแน่ จนกระทั่งหลานสาวต้องออกมายืนยันว่านั่นคือแม่ของเธอที่กำลังเป็นหวัดจนเสียงเปลี่ยน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณยายก็ดูเหมือนจะเชื่ออย่างสนิทใจว่าเว่ยผิงคือลูกของเธอจริง ๆ
นางเว่ยผิงจะคอยโทรหาหญิงชราให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมักจะมีข้อแก้ตัวอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ต้องพบกัน ครั้งหนึ่งเธอบอกคุณยายไปว่าเพิ่งได้รับการผ่าตัดหัวใจจนไม่สามารถไปเยี่ยมได้
การหลอกลวงดำเนินต่อไปตลอดระยะเวลา 13 ปี ถึงแม้ว่าคุณยายจะอยากเจอหน้าลูกสาวมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีวันเป็นไปได้ นางเฉิงก็จะใช้วิธีให้หลาน ๆ ของเธอผลัดกันมาเยี่ยมคุณยายแทน
รวมถึงงานวันเกิดครบรอบอายุ 100 ปีของคุณยาย นางเฉิงและพี่น้องทุกคนต่างมาร่วมอวยพรวันเกิดทั้งหมด คุณยายดูเหมือนจะมีความสุขแต่ก็มีสีหน้าที่อมทุกข์อย่างเห็นได้ชัดเมื่อไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวของเธอ มีแค่เพียงคำยืนยันจากหลานสาวเท่านั้นว่าแม่สบายดี ซึ่งนั่นทำให้หญิงชราพอใจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
2-3 เดือนหลังจากวันเกิด คุณยายก็ถึงแก่กรรมโดยที่ไม่ได้มีโอกาสพบหน้าลูกสาวของเธอมาเกือบ 2 ทศวรรษ มันเป็นจุดจบที่น่าเศร้าของเรื่องราวที่สะเทือนใจนี้
นางเฉิงยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่เธอเชื่อว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ทำแบบนี้ เธอไม่มีวันให้คนชราที่มีอายุมากขนาดนี้ต้องเสี่ยงที่จะใจสลาย และมันอาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ถ้าเธอบอกความจริงออกไป
เรื่องราวของนางเฉิงกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ของจีนอย่างมาก หลายคนต่างมาถกเถียงกันว่ามันสมควรแล้วหรือไม่ที่เลือกใช้วิธีโกหกในลักษณะนี้ การตัดสินใจของเธอเป็นเรื่องผิดหรือถูกกันแน่ แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวนี้บ้าง
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ