ในงานแต่งงานของชาวตะวันตก เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะได้รับของขวัญจากแขกในพิธีมากมาย แบรนดอน และ เคธี กันน์ คือคู่รักบ่าวสาวที่ได้รับของขวัญมากมายในวันสำคัญของทั้งคู่เช่นกัน แต่เกือบ 1 ทศวรรษต่อมา ทั้งคู่ยังมีของขวัญชิ้นหนึ่งที่ยังไม่ได้แกะอยู่ในตู้เสื้อผ้าของพวกเขา ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ภายในพิธีแต่งงานที่สวยงามในเมืองแจ็กสัน รัฐมิชิแกน แบรนดอนและเคธีใช้เวลาตลอดงานแต่งคอยต้อนรับแขกที่มีจำนวนมากถึง 300 คน พวกเขาได้รับของขวัญมากมาย แต่หนึ่งในของขวัญที่แตกต่างออกไปมาจาก อลิสัน คุณยายของเคธี
สิ่งที่ทำให้ของขวัญกล่องนี้แตกต่างจากกล่องอื่น ๆ นั่นคือ บนกล่องมีจดหมายที่เขียนเอาไว้ว่า “อย่าเปิดจนกว่าจะเกิดความขัดแย้งครั้งแรกของคุณ”
ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ทั้งคู่เคารพในคำแนะนำของคุณยาย และเก็บมันเอาไว้โดยไม่เคยแกะของขวัญชิ้นนี้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายปีก็ตาม เรื่องนี้ทำให้คุณยายอลิสันค่อนข้างแปลกใจ
“เธอมองดูเราเหมือนเราบ้า” เคธีกล่าว “แม่ของฉันก็แบบว่า เคธี ถ้ามันเป็นอาหารหรืออะไรสักอย่างข้างในล่ะ”
หลังจากนั้น เคธีก็พยายามสอบถามคุณยายให้แน่ใจว่า ไม่ได้มีของอะไรที่เน่าเสียหรือต้องรีบแกะออกมาหรือไม่ แต่หลังจากการสนทนานั้น ของขวัญก็ยังถูกเก็บเอาไว้ต่อไป
เรื่องนี้ถูกลืมไปเสียสนิท เวลาผ่านไปอีกหลายปีจนกระทั่งแบรนดอนและเคธีมีลูกด้วยกัน และยังย้ายบ้านอีกหลายครั้ง
ความเครียดเริ่มก่อตัวมากขึ้นภายในครอบครัวหลังจากที่ความรับผิดชอบของทั้งคู่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องการเป็นพ่อแม่คนและเรื่องงาน แต่ไม่เคยมีใครอยากแกะของขวัญชิ้นนั้น มันกลายเป็นสัญลักษณ์ว่าทั้งคู่ยอมจำนนต่อชีวิตคู่ไปเรียบร้อยแล้ว
“ฉันและสามีต่างก็เป็นคนหัวแข็งทั้งคู่” เคธีกล่าว “เราชอบความท้าทาย ของขวัญชิ้นนั้นไม่เหมือนชิ้นไหน ๆ และไม่ใช่ของขวัญทั่วไป เราเก็บมันไว้เพราะมันพิเศษต่อเรามาก”
ของขวัญถูกเก็บเอาไว้นานจนทั้งคู่ลืมไปเสียสนิท คืนหนึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ส่งลูก ๆ เข้านอน ทั้งคู่ได้หวนรำลึกถึงพิธีแต่งงานและวันเก่า ๆ พร้อมทั้งคุยกันว่าของขวัญชิ้นไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับทั้งคู่
ณ จุดนั้น เคธีเริ่มจำของขวัญลึกลับของคุณยายได้ ของขวัญที่มีความหมายมากที่สุดของเธอยังคงถูกเก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้า มันไม่เคยถูกเปิดเลยแม้จะผ่านมานานถึง 9 ปี
การแต่งงานของเธอกับแบรนดอนไม่ใช่ว่าจะราบรื่นมาตลอดรอดฝั่ง “ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น การโต้เถียง การกระแทกประตูใส่กันตลอด 9 ปีของเรา” เคธีกล่าว
“มีหลายครั้งที่เราทั้งคู่คิดว่าจะยอมแพ้… แต่เราไม่เคยแกะของขวัญ ฉันคิดว่าเราทั้งคู่หลีกเลี่ยงการแกะของขวัญเพราะมันเป็นสัญลักษณ์ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวของเรา”
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ต้องยอมแพ้และแกะมันออกเพื่อหวังว่าปริศนาที่อยู่ในกล่องจะช่วยเหลือชีวิตครอบครัวของพวกเขาได้ ในที่สุดเธอกับแบรนดอนก็หยิบของขวัญออกมาจากตู้เสื้อผ้า ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเจออะไรอยู่ในนั้น
หลังจากแกะกล่องของขวัญออก ทั้งคู่พบจดหมายอีก 2 ฉบับในกล่องที่มาพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง ส่วนของขวัญอื่น ๆ ในกล่องประกอบไปด้วยของใช้ในห้องน้ำ แก้วไวน์ 2 ใบ แจกัน 1 ใบ
เมื่อดูผ่าน ๆ มันไม่ได้แตกต่างจากของขวัญของคนอื่น ๆ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของของขวัญเหล่านี้อาจเข้าใจยาก… แต่ข้อความที่เขียนด้วยลายมือของคุณยายอลิสันได้ให้คำตอบอะไรบางอย่าง
จดหมาย 2 ฉบับถือเขียนในเคธีและแบรนดอนแยกกัน ข้อความสำหรับเคธีบอกว่า “ไปกินพิซซ่า กุ้ง หรืออะไรก็ได้ที่คุณชอบ แล้วไปอาบน้ำซะ”
ส่วนข้อความสำหรับแบรนดอนคือ “ไปเอาดอกไม้และไวน์สักขวด”
ณ จุดนั้น เคธีบรรยายถึงความคาดหวังก่อนที่จะแกะของขวัญของคุณยายว่า “ตลอดมาเราคิดว่าเนื้อหาในกล่องเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยชีวิตแต่งงานของเรา มันน่าจะเป็นกลอุบายเก่าแก่ที่คนรุ่นใหม่อย่างเราไม่รู้”
“คุณยายและคุณตาของฉันแต่งงานกันมาเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว ดังนั้นเราจึงคิดว่ากล่องนี้จะช่วยเราได้ ในแบบที่มันควรจะทำได้ มันถูกคิดไปไกลว่าจะเป็นของขวัญแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
“เป็นเวลา 9 ปีที่กล่องนั้นถูกเก็บเอาไว้บนชั้นสูงในตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น” เคธีกล่าว “ถึงอย่างนั้นมันก็สอนให้เราเกี่ยวกับความอดทน ความเข้าใจ และการประนีประนอม”
“ชีวิตแต่งงานของเราแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเรากลายเป็นทั้งเพื่อนและคู่หู วันนี้เราตัดสินใจเปิดกล่องนั้น และฉันก็ได้ตระหนักว่าเครื่องมือในการสร้างและรักษาชีวิตแต่งงานที่ดีที่สุดไม่เคยอยู่ภายในกล่องนั้นเลย แต่สิ่งเหล่านั้นอยู่ภายในตัวเรา”
“ฉันรู้สึกว่าถ้าเรายังไม่เปิดกล่อง เราจะยังมีชีวิตครอบครัวอยู่เสมอจนถึงจุดที่เราได้ใช้มันจริง ๆ” เคธีอธิบายความรู้สึก “เรามักจะคิดว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นจะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง”
“ความจริงก็คือ ไม่มีของขวัญใดที่จะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือทำให้ดีขึ้นได้ มันเป็นเรื่องที่เราจะต้องทำด้วยตัวเอง”
ดูเหมือนของขวัญของคุณยายจะทำให้เธอได้ฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
หลังจากเปิดกล่องของขวัญเป็นที่เรียบร้อย เคธีตัดสินใจโทรหาคุณยายอลิสัน
“เธอคิดว่ามันน่าทึ่งมาก” เคธีกล่าวเสริม “เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม แต่เธอคิดว่าเราบ้าไปแล้วที่เก็บมันเอาไว้นานขนาดนี้ เธอรู้ว่ามันเป็นของขวัญที่พิเศษ แต่ไม่รู้ว่ามันพิเศษมากแค่ไหนสำหรับเรา”
เรื่องราวของเคธีได้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ในปี 2016 หลังจากที่เพจ Love What Matters ได้หยิบเรื่องราวของเธอมาแชร์ และชาวเน็ตมากมายก็ต่างมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ฉันคิดว่าของขวัญได้ผลตามที่คุณยายของคุณตั้งใจไว้” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว
“คุณไม่ได้เปิดมันเมื่อเกิดความขัดแย้งครั้งแรก แต่ทิ้งเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าที่ต้องเห็นมันทุกครั้งเวลาเปิดตู้นั้น มันเป็นเหมือนสิ่งที่คอยเตือนให้คุณระงับอารมณ์เวลาทะเลาะกัน ช่วยรักษาระดับความโกรธเอาไว้แทนที่จะปะทุเป็นภูเขาไฟ”
ปัจจุบันครอบครัวของเคธีและแบรนดอนยังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมกับลูก ๆ ทั้ง 2 คน และเรื่องราวของทั้งคู่ได้ให้ข้อคิดในหลาย ๆ แง่มุมกับพวกเราทุกคน ซึ่งมันอาจไม่ได้มีของขวัญใดที่จะช่วยกอบกู้ชีวิตคู่ของคุณได้ มากไปกว่าตัวของคุณเองอยู่ดี
ที่มา : boredomtherapy | เรียบเรียงโดย เพชรมายา