ความรักของพ่อที่มีต่อลูกมีพลังมากมายจนเขาสามารถผจญภัยไปยังโลกที่ไม่รู้จักได้ นี่คือสิ่งที่ เจมี อเล็กซานเดอร์ ได้เข้าไปสัมผัส เมื่อเขาเริ่มออกแบบชุดว่ายน้ำที่จะทำให้เด็กข้ามเพศรู้สึกสบายใจในขณะสวมใส่ว่ายน้ำและเล่นยิมนาสติก จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นแบรนด์ RUBIES ชุดบิกินีสำหรับเด็กสาวประเภทสองทั่วโลก
จุดเริ่มต้นที่มาจากลูก
ตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ รูบี เริ่มชื่นชอบในสิ่งที่ไม่เหมือนกับเด็กผู้ชายทั่วไป เด็กชายชอบใส่รองเท้าส้นสูง เต้นไปกับวิดีโอของดิสนีย์และบียอนเซ และรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าหญิง
ณ ตอนนั้นเอง เจมีและภรรยาของเขาได้เข้าร่วมกลุ่มที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยโรงเรียนโตรอนโต มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ช่วยให้ลูกของพวกเขาค้นหาตัวเองว่าเป็น ‘ชาย’ เพศที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด หรือเป็น ‘หญิง’ หรือเพศอื่น ๆ กันแน่ และนั่นทำให้รูบีเข้าใจตนเองมากขึ้นว่าเธอเป็นใคร
เมื่อรูบีอายุได้ 11 ขวบ เธอถามพ่อแม่ว่าสามารถใส่บิกินีเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้หรือไม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะใจลูก ทั้งคู่จึงซื้อบิกินีธรรมดาให้เธอ ซึ่งในตอนแรกมันใช้ได้ผลดี
และในระหว่างการเดินทางไปยังประเทศที่ไม่คุ้นเคย พวกเขาได้ตระหนักว่าลูกสาวข้ามเพศของพวกเขาจะยอมรับตัวเองได้อย่างไรในขณะที่สวมบิกินีบนชายหาด และนั่นทำให้เจมีพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกสาว
เมื่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์สู่การเป็นนักออกแบบชุดว่ายน้ำ
ในเดือนตุลาคม 2019 เจมี ออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีจากบริษัทซอฟต์แวร์ที่เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อเริ่มธุรกิจใหม่ ภารกิจของเขาคือการสร้างชุดบิกินีที่พอดีสำหรับเด็กหญิงข้ามเพศที่อายุต่ำกว่า 14 ปี และในที่สุดเขาก็ก่อตั้งแบรนด์ RUBIES ขึ้นมาพร้อมกับสโลแกน “เด็กหญิงทุกคนสมควรที่จะเปล่งประกาย”
ก้าวแรกสู่อุตสาหกรรมแฟชัน
เจมีเริ่มต้นเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ด้วยการสมัครเข้าเรียนที่ด้านแฟชันมหาวิทยาลัย Ryerson ในโตรอนโต เพื่อนำความรู้มาพัฒนาธุรกิจของเขา ที่นั่นเองเขาได้พบกับ โอเลนา วิฟชายุค วิศวกรสิ่งทอท้องถิ่นที่ช่วยเขาในการออกแบบและผลิต “บิกินีต้นแบบ” ชิ้นแรกสำหรับแบรนด์ของเขา
จนในที่สุด Cat ผู้ประกอบการด้านแฟชั่นก็เข้าร่วมทีม และพวกเขาก็ได้สร้างตัวอย่าง 20 ตัวอย่างแรกออกมาได้สำเร็จ
การออกแบบแรก
เจมีตระหนักดีว่า บิกินีสำหรับสาวประเภท 2 ส่วนใหญ่มักจะมีแผ่นรองหนาที่ด้านหนาซึ่งดูผิดธรรมชาติ ดังนั้นบิกินีของพวกเขาจึงเริ่มต้นด้วยการใช้เส้นใย “สแปนเด็กซ์” เส้นใยยางสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นได้ดี และสามารถหดกลับได้เท่ากับขนาดเดิม ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายใจ และสามารถทำกิจกรรมได้ทุกอย่างในแบบที่ผู้หญิงทำ
หลังจากนั้นเจมีได้เริ่มทดสอบและขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบของเขาภายในสมาชิกกลุ่มที่มีผู้ปกครองของเด็กข้ามเพศ ด้วยการส่งบิกินีของเขาไปให้ทดลองฟรี
เสียงตอบรับที่ดีเกินคาด
แน่นอนว่ารูบีเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เจมีสร้างแบรนด์ RUBIES ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ปกครอบของเด็กหญิงข้ามเพศมากมายก็ประทับใจกับผลงานของเจมีเช่นกัน
ปัจจุบัน แบรนด์ RUBIES เป็นภาพสะท้อนตัวตนของรูบีและครอบครัวของเธอได้ดีมาก ๆ มันเต็มไปด้วยความสดใส สนุกสนาน ร่าเริง การมองโลกในแง่บวกและความอบอุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่รูบีได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากครอบครัวของเธอ
คำแนะนำสำหรับพ่อแม่คนอื่น ๆ
เจมีกล่าวว่า เขาไม่ได้มีคำตอบให้เป็นพิเศษ แต่เขาสามารถเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับภรรยา โดยปล่อยให้ลูกสาวนำทางพวกเขาไป
“จงตามการนำทางของลูก ๆ คุณ เพราะในที่สุดแล้ว คุณจะต้องจัดหาสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและยึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ด้วยความรัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูก ๆ ของคุณ” เจมีกล่าว
เรื่องราวของรูบีและครอบครัวของเธอถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจและการยอมรับในตัวตนของลูกได้ส่งผลลัพธ์ที่ดีให้กับครอบครัวได้อย่างไร และหวังว่าพ่อแม่ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องราวนี้จะเข้าใจในตัวตนของลูกเราขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
