สีผิว เป็นสิ่งที่ติดตัวคุณมาตั้งแต่กำเนิด มันอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากการดูแลรักษาหรือนวัตกรรมทางการแพทย์ แต่บางครั้งมันก็เกิดจากสาเหตุบางอย่างที่เราไม่อาจเข้าใจได้ เหมือนกับเรื่องราวของชายคนนี้
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2021 ไทเลอร์ มังค์ ผู้ตรวจการเขตควบคุมศัตรูพืชวัย 34 ปี จากรัฐลุยเซียนา ได้เข้ารับการรักษาภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าของเขากับจิตแพทย์รายหนึ่ง และเขาได้รับยา Prozac หรือ ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) กลุ่มยาทางจิตเวชที่ถูกใช้สำหรับเป็นยาต้านภาวะซึมเศร้า
โชคร้ายที่ Prozac ไม่สามารถช่วยให้เขาดีขึ้นได้ แถมมันยังส่งผลข้างเคียงกับตัวเขาอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย นั่นคือสีผิวของเขาบางส่วนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอย่างเห็นได้ชัด
“ความจริงก็คือพวกหมอไม่รู้ว่าทำไมผมถึงมีสีผิวเปลี่ยนไป” ไทเลอร์กล่าวบนโลกออนไลน์ จนทำให้เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลก
“อย่างแรก หมอคิดว่าผิวของผมอาจไวต่อแสง แม้ผมจะปิดบังร่างกายยังไงก็ตาม แต่สีผิวของผมก็ยังเข้มขึ้นอยู่ดี” ไทเลอร์กล่าว
แม้ว่าไทเลอร์จะหยุดกินยาหลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากมันไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าของเขา แต่อาการสีผิวที่เข้มขึ้นของไทเลอร์ก็ยังคงดำเนินต่อไป จนถึงจุดหนึ่งที่สีผิวของเขากลายเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบเหมือนคนผิวสี
ในตอนแรก ไทเลอร์ปฏิเสธความจริงที่ว่าสีผิวของเขากำลังเปลี่ยนไป แต่หลังจากที่เพื่อน ๆ หลายคนทัก เขาจึงตัดสินใจยอมรับความจริง และพยายามเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังหลายคน แต่ก็ยังไม่มีใครที่สามารถฟันธงได้อย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เขาต้องเผชิญอยู่มันเกิดจากอะไรกันแน่
ในขณะที่คอมเมนต์ของชาวเน็ตหลายคนพยายามวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงที่เกิดกับตัวเขา ตัวอย่างเช่น
“มันเป็นเพราะฟลูออกซิทีนมีส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่บางส่วนของร่างกายที่โดนแสงแดด จะเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
สิ่งที่โชคดีก็คือ ไทเลอร์ยังมีภรรยาและครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
ปัจจุบัน ไทเลอร์ได้พยามติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยรักษาอาการที่ผิดปกติของเขา นอกจากนั้นเขายังระดมทุนในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอีกด้วย
ที่มา: odditycentral