17 สถานที่ๆ คุณอาจคิดว่ามันมาจากโลกใบอื่น

บนโลกใบนี้มีสถานที่ทางธรรมชาติสวยๆ แปลกๆ เจ๋งๆ มากมาย ซึง่น้อยคนนัก จะรู้จักสถานที่เหล่านี้ไปหมดทุกที่ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รักการผจญภัยล่ะก็ วันนี้เพชรมายาจะขอพามารู้จักสถานที่ทางธรรมชาติสุดอัศจรรย์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้เลยว่า สถานที่เหล่านี้มันมีอยู่จริงบนโลกด้วย

1. The Wave – อริโซนา , สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-01

เป็นรูปแบบของเนินหินทรายที่มีลวดลายสวยงามคล้ายคลื่นลาดชัน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก และเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ค่อนข้างเปราะบาง ทางรัฐบาลจึงจำกัดให้มีการเข้าชมได้เพียงแค่ 10 คนต่อวันเท่านั้น

2. Beauty Pool – อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน, สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-02

บ่อน้ำพุร้อนที่เชื่อมต่อกับบ่อน้ำพุร้อนโครมาติก โดยระดับน้ำของบ่อน้ำพุร้อนทั้งสองแห่งนี้จะสัมพันธ์กัน หากบ่อไหนน้ำขึ้นสูง อีกบ่อก็จะลดลง ดังที่เห็นในภาพทางด้านขวา

3. Moeraki Boulders – นิวซีแลนด์

fantastic-nature-03

หินยักษ์โมรากิ ที่กระจัดกระจายอยู่บนชายหาด Koekohe เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นบนพื้นมหาสมุทรก่อนที่มันจะถูกพัดขึ้นมาบนชายฝั่ง โดยหินแต่ละก้อนจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ครึ่งเมตรไปจนถึง 3 เมตร ด้วยลักษณะที่สวยแปลกแบบนี้ จึงทำให้มันถูกตั้งชื่อว่าเป็น หินไข่ไดโนเสาร์

4. Sailing Stones – อุทยานเดธวัลเลย์, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-04

รู้จักกันดีในชื่อ “หินเดินได้” ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมานานว่าทำไมหินที่อยู่ที่นี่ จึงสามารถเคลื่อนที่ไปได้เอง โดยสามารถเห็นได้ชัดจากร่องรอยที่ถูกลากไปตามพื้นดิน ซึ่งหินแต่ละก้อนมีน้ำหนักมากถึง 700 ปอนด์เลยทีเดียว แต่หินเหล่านี้ 2-3 ปี จะเคลื่อนที่สักครั้ง จึงเป็นการยากที่จะหาสาเหตุการเคลื่อนที่ของหินเหล่านี้

5. The Pinnacles – อุทยานแห่งชาตินัมบัง, ออสเตรเลียตะวันตก

fantastic-nature-05

โครงสร้างหินปูนทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้ แต่ละแท่งมีความสูงราว 5 เมตร โดยมีอายุราว 25,000 – 30,000 ปีมาแล้ว โดยเกิดหลังจากที่ระดับน้ำทะเลลดลง และทิ้งพวกเปลือกหอยเอาไว้ ซึ่งกลายมาเป็นส่วนประกอบหลักในแท่งหินปูนยักษ์เหล่านี้

6. Crater Lake – โอเรกอน, สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-06

ปากปล่องภูเขาไฟ Mount Mazama ที่ดับสนิทแล้ว จนกลายเป็นทะเลสาบที่ก่อตัวขึ้นราว 7,700 ปีก่อน ถึงแม้ทะเลสาบแห่งนี้จะไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน แต่มันก็ชดเชยด้วยน้ำฝนและหิมะ โดยทะเลสาบแห่งนี้มีความลึกถึง 1,949 ฟุต ถือเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในอเมริกา และเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่ถ้านับความลึกโดยเฉลี่ยจะเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว

7. Elephant Rock – วัลเลย์ ออฟ ไฟร์ สเตท ปาร์ค, เนวาดา, สหรัฐอเมริกา

Harvesting Light

ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นคือ หินรูปทรงขนาดใหญ่มาก ที่มีลักษณะคล้ายกับช้าง ถือเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมของเนวาดา และไปอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Total Recall, Transformers และ Star Trek

8. Balls Pyramid – เกาะลอร์ด โฮเว, นิว เซาท์ เวลส์, ออสเตรเลีย

fantastic-nature-08

เป็นเศษซากส่วนที่เหลือจากภูเขาไฟเมื่อประมาณ 6.4 ล้านปีก่อน โดยมีความสูงถึง 1,844 ฟุต ซึ่งทำให้มันกลายเป็นภูเขาหินในทะเลที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีแหล่งชีววิทยาแปลกๆ อย่างแมลงยักษ์ ทรี ล็อบสเตอร์ ที่หลายๆ คนคิดว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ก็ยังถูกพบที่นี่อีกด้วย

9. Lake Hillier – ออสเตรเลียตะวันตก

fantastic-nature-09

ทะเลสาบที่มีน้ำสีชมพูสวยงาม ที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจกับเหตุผลของการเกิดสีชมพูของมัน แต่คาดว่าเกิดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า Dunaliella ที่อยู่ในน้ำเป็นจำนวนมาก โดยมันจะผลิตสารสีแดงเพื่อใช้ในการดูดซับแสงอาทิตย์ นั่นจึงทำให้น้ำในทะเลสาบเปลี่ยนเป็นแดงอ่อนๆ ซึ่งเวลาที่กระทบแสงแดดจึงเห็นเป็นสีชมพู

10. Great Blue Hole – เบลีซ

fantastic-nature-10

หลุมใต้น้ำขนาดยักษ์ บริเวณชายฝั่งของประเทศเบลีซ ในอเมริกากลาง โดยอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของแนวปะการังไลท์เฮาส์ โดยมันมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 300 เมตร และลึกถึง 124 เมตร จากการวิเคราะห์หินงอกหินย้อยในหลุมแห่งนี้ พบว่ามันก่อตัวขึ้นหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วง 153,000 : 66,000 : 60,000 และ 15,000 ปีผ่านมา

11. Badwater Basin – แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา

Badwater Basin Salt Flats Sunrise

ทะเลสาบเกลือ ที่เป็นจุดต่ำที่สุดบนทวีปอเมริกาเหนือ โดยพื้นที่แห่งนี้ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 282 ฟุต แถมยังมีอากาศร้อนนรกแตก โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2013 เควิน มาร์ติน นักอุตุนิยมวิทยาอิสระ บันทึกอุณหภูมิที่นี่ได้สูงถึง 57.5 องศา ซึ่งสูงกว่าสถิติโลกอย่างเป็นทางการ ที่บันทึกไว้ได้ที่ 56.6 องศา ที่เฟอร์เนซ ครีก, แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถิติตั้งแต่ปี 1913

12. Tsingy – อุทยานแห่งชาติอันคารานา, มาดากัสการ์

fantastic-nature-12

แนวชั้นหินปูนที่มีอายุกว่า 150 ล้านปี ตั้งแต่ยุคจูลาสสิก เรียงกันเป็นชุดอย่างสวยงามน่าอัศจรรย์ พร้อมกับระบบถ้ำและเครือข่ายแม่น้ำใต้ดิน ทำให้บางส่วนของพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยจระเข้

13. The Champagne Pool – ไวโอทาปู, นิวซีแลนด์

fantastic-nature-13

บ่อน้ำพุร้อนที่มีสีสันสวยงาม และมีแหล่งพลังงานความร้อนใต้พื้นดินจึงทำให้มันมีอุณหภูมิพื้นผิวถึง 74 องศาเซลเซียส แถมมันยังปล่อยฟองอากาศที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คล้ายกับฟองของแชมเปญ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้

14. Tufa Pinnacles – ทะเลสาบโมโน, เซียรา เนวาดา, สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-14

หินปูนรูปทรงประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบโมโน ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำ และบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ก้นทะเลสาบ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการตกตะกอนของหินปูนในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย และหลายเป็นรูปร่างอย่างที่เห็นนี้

15. Bryce Amphitheatre – อุทยานแห่งชาติไบรซ์แคนยอน, ยูทาห์, สหรัฐอเมริกา

fantastic-nature-15

ลักษณะของหินปูนที่ก่อให้เกิดเป็นเสา ที่ชาวอินเดียนเรียกว่า “หินแดง” ซึ่งก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 6 ล้านปีที่แล้ว ในขณะที่แผ่นดินบริเวณนี้ยังจมอยู่ใต้น้ำ และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก แผ่นดินยกตัวขึ้น จึงทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงจนกลายเป็นเสาหินรูปทรงแปลกๆ มากมายในหุบเขา

16. The Puente del Inca – อาร์เจนตินา

fantastic-nature-16

สะพานหินธรรมชาติที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีส้มและสีเหลือง ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่ถูกสร้างโดยกำมะถันจากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ครอบคลุมกำแพงหินเอาไว้

17. Rainforest sinkhole – อุทยานแห่งชาติจาอู-ซาริซารินามา, เวเนซูเอล่า

fantastic-nature-17

หลุมขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 350 เมตรและลึก 350 เมตร และโดยมันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชมากมายหลายชนิด ในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ๆ เข้าถึงยากมาก เพราะมันอยู่บนภูเขาที่ห่างไกลผู้คนมากที่สุดในอเมริกาใต้ วิธีการเข้าถึงง่ายที่สุดก็คือการพายเรือแคนูเข้าไป แต่นั่นก็อาจต้องใช้เวลาถึง 4-5 วันเลยทีเดียว

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : klyker | เรียบเรียงโดย เพชรมายา