หลังมีรายงานว่า ฝูงวาฬออร์กาบริเวณคาบสมุทรไอบีเรียเริ่มหันมาเล็งเป้าโจมตีเรือของมนุษย์ บรรดาคนเรือที่อยู่ในภูมิภาคนี้จึงมองหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อยับยั้งไม่ให้เจ้าสมุทรเหล่านี้ก่อกวนพวกเขาอีก
ทหารเรือชาวเยอรมันรายหนึ่งกล่าวว่า ลูกเรือของเขาหันไปใช้เพลงเฮฟวีเมทัลกระหน่ำลงไปผ่านลำโพงที่ติดตั้งเอาไว้ใต้น้ำ เพื่อขู่ให้วาฬออร์กา แต่สุดท้ายแล้ว วิธีนี้ก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แอนดรูว์ ไทรเตส ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียกล่าวกับ Business Insider ว่า การใช้เพลงที่รุนแรงและเสียงดังเพื่อหลีกเลี่ยงวาฬออร์กา กลับจะช่วยให้วาฬเหล่านี้ค้นพบเรือได้ง่ายขึ้น
“ในตอนแรก การเล่นเพลงเสียงดังใต้น้ำอาจช่วยซ่อนเสียงเรือได้ แต่สุดท้ายแล้ว วาฬเหล่านี้จะจับตำแหน่งได้และใช้เสียงดังกล่าวเพื่อค้นหาเรือได้ง่ายขึ้น” แอนดรูว์กล่าว
เขายังอธิบายต่อไปว่า วาฬออร์กาสามารถได้ยินเสียงที่มีคลื่นความถี่ที่สูงกว่ามนุษย์ ซึ่งหมายความว่า การพยายามปกปิดเสียงเรือที่วาฬออร์กาจำได้นั้น เป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์
สุดท้ายแล้ว วิธีนี้ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน แต่วิธีเดียวที่จะขัดขวางวาฬออร์กาไม่ให้เข้าใกล้เรือได้นั่นก็คือ การใช้เสียงที่ดังมากจนทำให้พวกมันบาดเจ็บและสูญเสียการได้ยิน แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ควรทำกับสัตว์เหล่านี้
นอกจากนั้น แอนดรูว์ยังกล่าวว่า หากคนเรือนำวิธีนี้ไปใช้ ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ การเพิ่มมลภาวะทางเสียงในมหาสมุทร ซึ่งอาจส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลชนิดอื่น ๆ ได้
มลพิษทางเสียงอาจฟังดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีสัตว์ทะเลจำนวนมากที่อาศัยเสียงเพื่อสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัว ดึงดูดคู่ ค้นหาแหล่งอาหาร หลีกเลี่ยงสัตว์นักล่า หรือใช้ในการนำทางในมหาสมุทร
นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า เสียงเดินทางในน้ำได้เร็วและไกลกว่าในอากาศ จึงทำให้การใช้เสียงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ
กลับมาที่ปัญหาฝูงวาฬออร์กาที่มักจะโจมตีเรือ จนถึงตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีวี่แววจะหาวิธีหยุดพวกมันไม่ใช่พุ่งชนเรือได้ และจำเป็นต้องใช้การทดลองเพื่อหาวิธีป้องกันที่ดีที่สุดต่อไป
ที่มา: businessinsider