ไม่มีเหตุผลที่คุณจะหยิบของหมดอายุหรือของดิบ ๆ ที่เน่าเสียมากิน ยกเว้นแต่ว่าคุณต้องการทดลองอะไรบางอย่าง หรือแค่อยากให้มีผู้สนใจคุณบนโลกออนไลน์มากขึ้น หรือไม่คุณก็กำลังกลายเป็นซอมบี้
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเทรนด์ใหม่ที่น่าขยะแขยงบนโลกออนไลน์เกิดขึ้น มันคือการกินเนื้อดิบ ๆ ที่เน่าเสียโดยผู้คนต่างคาดหวังผลลลัพธ์ความฟินบางอย่างที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการกินยาเพื่อให้เกิดอาการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
กระแสที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นี้ถูกผลักดันจากผู้คนบางส่วนบนโลกโซเชียลมีเดียและยูทูป ซึ่งมีวิดีโอจำนวนไม่น้อยที่แสดงให้เห็นถึงการทดลองที่พิลึกพิลั่นนี้ โดยพวกเขาเรียกเมนูนี้ว่า “High Meat”
“เพื่อนคนหนึ่งโน้มน้าวให้ผมกินเนื้อเน่า (High Meat) เมื่อวานนนี้ และมันก็รู้สึกดีมาก ๆ มันน่าสนใจมาก ๆ เพราะทุกคนคิดว่ามันบ้า” นี่คือบทสนทนาจากชาวเน็ตบางส่วนที่อ้างว่า พวกเขารับประทาน High Meat แล้วรู้สึกดีมากแถมไม่มีอาการป่วยใด ๆ เกิดขึ้น
สภาพเนื้อที่เขากิน ดูแล้วก็ไม่น่าหยิบเข้าปากอย่างสิ้นเชิง
เห็นได้ชัดว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะก็สามารถทราบทันทีว่าทำไมมนุษย์เราถึงต้องปรุงเนื้อให้สุกก่อนรับประทาน และมนุษย์เรารู้จักการใช้ไฟทำเนื้อสัตว์ให้สุกมานานกว่า 3-4 แสนปีแล้ว และยังคงปฏิบัติกันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุผลคือความร้อนจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรีย รวมถึงช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดกับร่างกายคุณอีกมากมาย เช่น อาหารเป็นพิษ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่นำเสนอเทรนด์ใหม่นี้กำลังบอกว่า การรับประทานเนื้อเน่าจะช่วยให้คุณรู้สึก “ฟิน” ถึงแม้จะยังไม่มีการพิสูจน์เรื่องนี้ทางวิทยาศาสตร์ แต่พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดจากแบคทีเรียจำนวนมาก หรือมันอาจเกิดจากความคิดฟุ้งซ่านหลังการบริโภคของเน่า
เน่าไม่ใช่หมัก
อย่างที่เราทราบกันดีว่า มีเนื้อสัตว์หลายชนิดที่เราสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงสุก เช่น ซาชิมิ กุ้งแช่น้ำปลา หรือแม้แต่เนื้อวัวที่ถูกทำเป็นสเต็ก ในขณะที่หนึ่งในอาหารที่มีกลิ่นเหม็นที่สุดในโลกอย่าง Surströmming หรือ ปลาเน่าสวีเดน ที่ผ่านกระบวนการหมักอย่างน้อยหกเดือนก็เป็นอาหารที่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย
แต่ในกรณีของ High Meat กลับต่างออกไป มันคือเนื้อที่ถูกทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยนานถึง 1 ปีโดยไม่มีสารปรุงแต่งหรือสารกันบูดใด ๆ ทั้งสิ้น เนื้อเน่านี้จึงเต็มไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมหาศาล เช่น ซัลโมเนลลา และอีโคไล ที่ไม่เหมาะกับการบริโภคอย่างแรง ซึ่งมันแตกต่างจากการหมักอาหารอย่างถูกวิธีโดยสิ้นเชิง
เชื่อว่าเทรนด์นี้คงไม่ได้รับความนิยมมากไปกว่านี้ และเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่จะมีวิจารณญาณพอที่จะไม่กินเนื้อดิบ ๆ ที่เน่าเสีย หรือหากใครที่อยากลอง ก็ต้องปล่อยให้เป็นผลของการคัดสรรโดยธรรมชาติต่อไป
ที่มา : mashable | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
