โทมัส และ ฮันนาห์ มาเซตติ คู่รักชาวสวีเดนกำลังพยายามระดมทุนที่สูงถึง 15 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 500 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์เพลง Last Christmas ของ Wham! ทั้งหมดก็คือเพื่อทำลายมันทิ้ง
ถ้าหากพูดถึงเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาส หลายคนอาจชื่นชอบเพลง All I Want For Christmas Is You ของ มารายห์ แครี หรือ Jingle Bell Rock แต่แท้ที่จริงแล้ว หนึ่งในเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก นั่นคือเพลง Last Christmas ของ Wham! ที่ติดหูผู้คนทั่วโลกมานานกว่า 3 ทศวรรษ
เพลง Last Christmas ของ Wham! ที่ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 870 ล้านวิวบนยูทูป
แน่นอนว่ามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด และแน่นอนว่ามีใครบางคนที่เกลียดเพลงนี้เข้าไส้ โดยเฉพาะครอบครัวมาเซตติที่ไม่อาจทนเพลงนี้ได้อีกต่อไป เพราะเมื่อคริสต์มาสปีที่แล้ว (ที่เหมือนกับชื่อเพลง) พวกเขาตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึง นั่นคือทำลายเพลงนี้ให้หายไปจากโลก
จุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนของพวกเขาคนหนึ่งพูดติดตลกว่า ในทางทฤษฎีพวกเขาสามารถซื้อลิขสิทธิ์เพลงนี้แล้วนำไปทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นทั้งสองจึงเริ่มหาวิธีระดมทุนบนโลกออนไลน์ โดยขอให้ผู้ลงทุนที่มีเป้าหมายเดียวกันร่วมกันตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรให้เพลง Last Christmas หายไปอย่างถาวร
“เราสอบถามไปทั่วในหมู่เพื่อนฝูงและญาติพี่น้องเพื่อกระจายข่าวออกไป มันสนุกเพราะมีทั้งคนชอบและเกลียดไอเดียนี้ บางทีคริสต์มาสหน้าอาจจะเป็นคริสต์มาสสุดท้ายก็เป็นได้” ฮันนาห์กล่าว
คุณแม่ลูกสามวัย 33 ปีรายนี้ เบื่อกับเพลง Last Christmas มาตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อน ในขณะที่ทำงานอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง โดยเจ้าของร้านเปิดเพลงดังกล่าววนซ้ำไปซ้ำมาในช่วงเทศกาล เขาเข้า ๆ ออก ๆ ร้านจึงไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ต้องฟังเพลงเดิมวนไปเป็นร้อย ๆ รอบ
“เราไม่ได้เกลียดวง Wham!” ฮันนาห์และโธมัสชี้แจง “แต่เราเกลียดเพลงนี้ เพราะมีการเล่นซ้ำ ๆ ถึง 5,000 ครั้งต่อวัน และเรารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่เจ็บปวดเหมือนเรา”
สำหรับค่าลิขสิทธิ์เพลง Last Christmas ของ Wham! ปัจจุบันเป็นของ Warner Chappell Music UK และมีมูลค่าราว 15 ถึง 25 ล้านเหรียญ โดยครอบครัวมาเซตติหวังว่าจะระดมทุนให้ได้ราว 15 ล้านเหรียญ เพื่อนำไปเจรจาต่อรองกับเจ้าของลิขสิทธิ์ต่อไป
จนถึงตอนนี้ ครอบครัวมาเซตติระดมทุนได้มากถึง 62,000 เหรียญ (ราว 2.1 ล้านบาท) จากผู้ร่วมอุดมการณ์ 325 คนที่เกลียดเพลงนี้ ถึงแม้ว่ามันยังห่างไกลจากค่าลิขสิทธิ์อยู่มาก แต่ทั้งคู่ก็หวังว่าในสักวันหนึ่ง พวกเขาจะทำเป้าหมายนี้ได้สำเร็จ
และหากทั้งคู่ทำสำเร็จ คู่รักชาวสวีเดนวางแผนที่จะนำบันทึกเสียงมาสเตอร์ของเพลง Last Christmas ไปทิ้งยังสถานที่ทิ้งกากนิวเคลียร์ในฟินแลนด์ และมันจะอยู่ไปแบบนั้นอย่างน้อย 2 ล้านปี
ที่มา: odditycentral
