หนุ่มจีนใช้เงินเกือบ 5 แสนสร้างเกาะแห่งรัก เพื่อง้อแฟนเก่าให้กลับมา

มีคำกล่าวที่นำมาจากบทกลอนของสุนทรภู่ในเรื่องพระอภัยมณีกล่าวไว้ว่า “ยามแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ยามร้าวรานน้ำตาลยังว่าขม” ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

นี่คือเรื่องราวของ “เสี่ยวสี” หนุ่มชาวจีนจากมณฑลกวางตุ้งที่พยายามเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นสวรรค์สีชมพูเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนเก่าของเขา จนกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ในประเทศจีนอย่างมากมาย

ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม พ่อหนุ่มจีนได้ทุ่มทุนไปประมาณ 100,000 หยวน หรือประมาณ 470,000 บาท เพื่อเปลี่ยนเกาะเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไรกลางทะเลสาบใกล้หมู่บ้านของเขา ให้กลายเป็นเกาะแห่งความรักในเทพนิยายที่เขาตั้งชื่อว่า Love Island

ย้อนกลับไปในปี 2018 เสี่ยวสีได้พบกับแฟนสาวของเขาในขณะที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกันในเมืองกวางโจว และตัดสินใจอยู่ด้วยกันมาตลอดจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา เสี่ยวสีจำเป็นต้องกลับมายังบ้านเกิดของเขาเพื่อดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา

แต่น่าเสียดายที่แฟนสาวของเขาเกิดและเติบโตที่กวางโจว เธอไม่ต้องการทิ้งชีวิตในเมืองและครอบครัวของเธอเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นด้วยกับการย้ายไปใช้ชีวิตในชนบทกับเสี่ยวสี และผลลัพธ์ก็คือทั้งคู่ต้องเลิกรากันไป

เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เสี่ยวสีพยายามแสดงให้อดีตคนรักเห็นว่าเขายังรักเธอมากแค่ไหน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมปีที่แล้ว เขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเกาะร้างที่น่าเกลียดกลางทะเลสาบให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของเขา เพื่อง้อให้แฟนสาวกลับมาคืนดีกัน

ต้นพีช ต้นซากุระ และดอกเดซี่ของปลอมสีชมพูจำนวนมากถูกนำมาตกแต่งจนเต็มเกาะ หญ้าเทียมและหินแม่น้ำถูกนำมาจัดวางกันอย่างลงตัว รวมถึงชิงช้าที่ดูสุดแสนจะโรแมนติก นอกจากนั้นเขายังขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ช่วยสร้างสะพานไม้โค้งไปยังเกาะแห่งรักนี้ด้วย

Love Island ของเสี่ยวสีเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเดือนกว่า ๆ เท่านั้น และหลังจากภารกิจแห่งรักของเขาเสร็จสิ้น เสี่ยวสีได้ส่งรูปถ่ายของมันไปให้อดีตแฟนสาวของเขาดูและสารภาพว่า ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะเธอ

ถึงแม้ว่าอดีตแฟนสาวของเขาจะประทับใจ แต่มันก็ไม่ทำให้เธอหวนกลับมาอยู่ดี

“ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทอย่างจริงใจ ฉันหวังว่าคุณจะได้พบคนที่ดีกว่าฉันนะ” เธอตอบกลับเขาทางข้อความ ซึ่งมันทำให้เสี่ยวสีเจ็บปวดใจอย่างมาก

เราอาจไม่ได้อ่านเรื่องนี้ถ้าเสี่ยวสีตัดสินใจทำลายเกาะแห่งรักของเขาทิ้ง แต่เขาไม่ทำ ในขณะที่ชาวบ้านและคนในระแวกใกล้เคียงเริ่มมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปลงบนโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก

ถ้าเป็นในภาพยนตร์เรื่องราวของเสี่ยวสีอาจจบลงด้วยความสมหวังเพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นและความรักอันบริสุทธิ์ของเขา แต่นี่คือในชีวิตจริงที่จบลงด้วยความเศร้า และหากใครที่ทราบเรื่องราวเบื้องหลังเกาะสีชมพูที่แสนหวานนี้ล่ะก็ อาจต้องเสียน้ำตาให้กับผู้สร้างมันขึ้นมาก็เป็นได้

ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ