ย้อนกลับไปเมื่อ 148 ปีก่อน…
ในปี ค.ศ. 1876 นิโคลอส ออกัสต์ ออตโต วิศวกรชาวเยอรมันได้ประดิษฐ์เครื่องยนต์สันดาปภายใน 4 จังหวะ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเครื่องยนต์ของยานพาหนะในยุคปัจจุบัน
ก่อนที่อีกเพียงแค่ 27 ปี ต่อมา ในปี ค.ศ. 1903 สองพี่น้องตระกูลไรต์ ได้สร้างเครื่องบินที่สามารถพามนุษย์ขึ้นไปโบยบินบนท้องฟ้าได้สำเร็จ
และในอีก 66 ปี ต่อมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของนาซ่า ได้ส่งมนุษย์คนแรกไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ
มนุษย์เราสามารถไปเหยียบดาวดวงอื่นได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 100 ปี หลังจากพัฒนาเครื่องยนต์ที่วิ่งกับพื้นดิน นี่คือช่วงเวลาและการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีของมวลมนุษยชาติโดยแท้
• คำถามคือ หลังจากนี้ มนุษย์เราจะไปไหนได้อีก เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นการส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับแผนการส่งมนุษย์ไปดาวอังคารทั้งของนาซ่า หรือแม้แต่ SpaceX ของอีลอน มัสก์ ที่ไม่ได้วางแผนแค่การส่งมนุษย์ไปเหยียบดาวอังคาร แต่รวมไปถึงการไปก่อตั้งอาณานิคมที่ดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้อีกด้วย
• แต่การส่งมนุษย์เดินทางไปดาวอังคารนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด
ในขณะที่การส่งมนุษย์เดินทางไปดวงจันทร์ใช้เวลาแค่ 3 วัน แต่การส่งมนุษย์ไปดาวอังคารอาจใช้เวลาถึง 9 เดือน และอาจนานถึง 21 เดือน เมื่อคุณต้องเดินทางไป-กลับ เนื่องจากคุณต้องรอประมาณ 3 เดือนบนดาวอังคารเพื่อให้แน่ใจว่า โลกและดาวอังคารอยู่ในตำแหน่งที่จะเดินทางกลับได้
ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร 3 เดือน จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งอาหาร น้ำ พลังงาน ออกซิเจน ชุดอวกาศที่สามารถปกป้องสภาพแวดล้อมที่รุนแรง รวมถึงที่พักพิงที่มีความสะดวกสบายในระดับหนึ่ง
• โครงการ CHAPEA (Crew Health and Performance Exploration Analog)
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 นักบินอวกาศที่เป็นอาสาสมัคร 4 คน ได้ถูกส่งเข้าไปฝึกภายใต้ภารกิจ CHAPEA หรือการจำลองใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมดาวอังคาร ที่ต้องกินเวลายาวนานถึง 378 วัน
ในระหว่างนั้น นักบินอวกาศทั้ง 4 คนจะต้องดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการเดินอวกาศจำลอง ปฏิบัติการด้วยหุ่นยนต์ การซ่อมบำรุงรักษาที่พักพิง การรักษาสุขอนามันส่วนบุคคล การออกกำลังกาย การปลูกพืชผล แถมยังต้องเผชิญกับความตึงเครียดจากสภาพแวดล้อมจำลอง เช่น ข้อจำกัดด้านทรัพยากร การต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และอุปกรณ์ขัดข้อง
นี่เป็นภารกิจแรกจากสามภารกิจที่นาซ่าวางแผนเอาไว้ โดยจะใช้ผลลัพธ์งานวิจัยที่ได้จากภารกิจ CHAPEA ไปต่อยอดในภารกิจอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า นักบินอวกาศที่พวกเขาส่งไปจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างดีและปฏิบัติภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ถึงแม้จะไม่มีกำหนดการเดินทางไปดาวอังคารที่ชัดเจนตอนนี้ แต่มีการประเมินว่าเราจะสามารถส่งมนุษย์เดินทางไปเหยียบดาวอังคารได้ในระหว่างทศวรรษ 2030