พนักงานส่งของทดลองวางสเต็กไว้หน้ารถ เพื่อพิสูจน์ว่าในรถมันร้อนแค่ไหน

เมืองไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่ต้องทนกับอากาศร้อนตับแตกในช่วงฤดูร้อน แต่ยังมีอีกหลายๆ ประเทศที่อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตร ต้องเจอกับอากาศร้อนด้วยอุณหภูมิระดับ 40 องศาไม่ต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองฟินิกซ์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนที่สุดในรอบปีในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ในสถานการณ์แบบนี้ คุณคิดว่าอาชีพไหนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ?

หลายๆ คนอาจนึกไปถึงอาชีพที่ต้องทำงานกลางแดด แต่คุณอาจนึกไม่ถึงว่า พนักงานส่งไปรษณีย์ จาก UPSS หรือ บริการไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกา คืออาชีพที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุด เพราะพวกเขาจะต้องอยู่ในรถขนส่งจดหมายโดยที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศภายในรถ ในขณะที่อุณหภูมิภายในรถอาจร้อนถึง 53 องศา

ก่อนหน้านี้ มีพนักงานไปรษณีย์ในเมืองฟินิกซ์หลายคนถูกหามส่งโรงพยาบาลเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด และนี่คือเหตุผลที่พนักงานไปรษณีย์รายหนึ่งต้องการพิสูจน์ให้ผู้บริหารของพวกเขาดูว่า การทำงภายในรถส่งไปรษณีย์มันร้อนแค่ไหน

หลังจากที่วัดอุณหภูมิในรถอยู่นาน 2-3 สัปดาห์ เขาก็พบว่า อุณหภูมิภายในรถของเขาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 53.3 องศา

หลังจากนั้น เขาตัดสินใจนำสเต็กเนื้อดิบๆ มาวางเอาไว้บริเวณคอนโซลหน้ารถในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 ถึง 12.30 รวมเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

โดยเขาวัดอุณหภูมิในรถที่เขาวัดเอาไว้ตอนเที่ยงตรง พุ่งขึ้นสูงไปถึง 61 องศาเลยทีเดียว

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากแกะเนื้อสเต็กออกมาทำให้เห็นว่า สเต็กของเขาสุกในระดับ Medium-Rare ที่สามารถนำมารับประทานได้เลย

ย้อนกลับไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา UPPS เคยถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 1.5 แสนเหรียญ หรือราวๆ 4.5 ล้านบาท หลังจากที่มีพนักงานไปรษณีย์อายุ 63 ปี จากลอสแองเจลิส ที่เสียชีวิตจากความร้อนในระหว่างปฏบัติหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากกระแสที่เป็นข่าวในครั้งนี้ ทางผู้บริหารของ UPPS จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อความปลอดภัยของพนักงานให้มากกว่านี้แน่นอน

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ