ในขณะที่วัวโดยส่วนใหญ่จะมีความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120-130 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเฉลี่ยถึง 313-385 กิโลกรัม แต่สำหรับน้องวัวสายพันธุ์ภูฏานที่ชื่อว่า “รานี” อาจเป็นวัวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เพราะมันมีความสูงเพียง 51 เซนติเมตร และหนักเพียง 28 กิโลกรัมเท่านั้น
รานี (ในภาษาเบงกาลีแปลว่า “ราชินี”) เป็นวัวที่เกิดในปี 2019 และเพิ่งจะผ่านวันครบรอบวันเกิดอายุครบ 2 ปีของมันมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ นั่นหมายความว่ามันกลายเป็นวัวที่โตเต็มวัยแล้วเรียบร้อย แต่ปรากฎว่ามันยังมีขนาดตัวที่เล็กจิ๋วราวกับลูกวัวไม่เปลี่ยนแปลง และนั่นทำให้ ฮาซาน ฮาวลาดาร์ เจ้าของรานีมั่นใจว่ามันต้องเป็นวัวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
และเพื่อให้สถิตินี้กลายเป็นสถิติที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ ฮาซานจึงได้ยื่นเรื่องไปให้กับทางกินเนสบุ๊คเพื่อมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยสถิติเดิมของวัวที่ตัวเล็กที่สุดในโลกในปัจจุบันคือ Manikyam ที่มีความสูง 61.1 เซนติเมตร โดยถูกบันเอาไว้ในปี 2014
อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญสัตว์ระบุว่า ขนาดตัวที่เล็กจิ๋วของรานีเกิดมาจากภาวะแคระแกร็นที่เกิดจากการผสมพันธุ์
โจ อาร์มสตรอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยมินนิโซตาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรและอาหารกล่าวว่า “สำหรับสายพันธุ์ของรานี การกลายพันธุ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ซึ่งมันอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาอีกในอนาคต”
“หลายครั้งที่คุณมักเห็นสัตว์ที่มีความผิดปกติมาตั้งแต่เกิด และมันมักจะมีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ แถมมาด้วย” โจกล่าว “ดังนั้นผมจึงเป็นห่วงเรื่องของหัวใจเป็นพิเศษ”
ถึงแม้ว่ารานีจะได้รับการดูแลอย่างดีภายในฟาร์ม แต่โจคิดว่ามันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นานนัก เนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของมัน
ตอนนี้ รานีได้รับการดูแลอยู่ที่ฟาร์ม Shikor Agro ในธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ ความโด่งดังของมันไม่ได้มีแค่เฉพาะบนโลกโซเชียลเท่านั้น แต่ผู้คนจากทั่วสารทิศกำลังเดินทางไปที่ฟาร์มแห่งนี้
จากรายงานระบุว่า มีผู้คนมากกว่า 20,000 คนที่แห่กันไปที่ฟาร์มเพียงเพื่อจะได้พบกับรานีตัวเป็น ๆ แต่ปัญหาคือสถานการณ์โควิดในบังกลาเทศยังไม่สู้ดีนัก และมีผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 1 ล้านราย และยังเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่ยากจะควบคุมได้
ในขณะที่ อาบู ซูฟิอัน ผู้ดูแลฟาร์มได้แสดงความวิตกกังวลต่อจำนวนผู้คนที่เดินทางมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่เพียงแค่ปัญหาจากการแพร่ระบาดเท่านั้น แต่มันยังทำให้รานีรู้สึกอึดอัดและเกิดความเครียดอีกด้วย
“รานีไม่คุ้นเคยกับการมีปฏิสัมพันธ์กับคนจำนวนมาก มันแค่ต้องการพื้นที่เล็ก ๆ เพื่อเดินเล่นในฟาร์ม กินหญ้า ซึ่งมันแทบจะไม่มีเวลาทำแบบนั้นเลยตอนนี้” อาบูกล่าว
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทางฟาร์มต้องออกกฎที่เข้มงวดมากขึ้น โดยกำจัดคนเข้าชมได้เพียงแค่ 10 คนต่อวัน โดยต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า นอกจากนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัย ฟาร์มเองก็ต้องจ้างผู้ดูแลถึง 3 คน เพื่อมาดูแลวัวจิ๋วเพียงตัวเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ผู้มาเยือนน้อยลงมาก รานีจึงกลับมาร่าเริงอีกครั้ง และบุคลิกของมันก็ดูจะยิ่งใหญ่เกินตัวเองไปมาก
“มันทำตัวเหมือนราชินี และชอบที่จะรักษาความสะอาดอยู่เสมอ” อาบูกล่าว
สุดท้าย อาบูกล่าวว่า เขามีแผนจะมอบรานีให้กับทางเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเขาคิดว่าจะสามารถดูแลเอาใจใส่รานีได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ รวมถึงการดูแลเรื่องสุขภาพตลอดชีวิตที่เหลือของมันด้วย
ที่มา : mashable | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
