12 ความจริงเกี่ยวกับ Harry Potter ที่แฟน ๆ เพิ่งรู้ในอีกหลายปีต่อมา

ภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าแฟน ๆ จะได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกเวทมนตร์แล้ว แต่ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตตัวละครที่ เจ. เค. โรว์ลิง เพิ่งเปิดเผยให้แฟน ๆ ได้รับรู้ไม่กี่ปีหลังนี้เอง

วันนี้เพชรมายาจะไปชม 12 ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่เพิ่งถูกเปิดเผย และไม่มีในหนังสือหรือภาพยนตร์ จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย

1. พ่อมดไม่ใช้ห้องน้ำ

เดิมทีที่ฮอกวอตส์ไม่ได้มีห้องน้ำ จนกระทั่งเริ่มมีการนำระบบประปาของมักเกิ้ลมาใช้ในศตวรรษที่ 18 ปกติพ่อมดและแม่มดจะสามารถขับถ่ายที่ไหนก็ได้ จากนั้นก็ใช้เวทมนตร์ทำความสะอาดให้หลักฐานหายไป

2. แฮร์รี่ไม่มีญาติคนอื่นนอกจากพวกเดอร์สลีย์จริง ๆ

แฟน ๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมแฮร์รี่ต้องไปอาศัยอยู่กับพวกเดอร์สลีย์ เขาน่าจะมีญาติอยู่ในโลกเวทมนตร์เหลืออยู่บ้าง ซึ่งเจ. เค. โรว์ลิงได้อธิบายว่า ปู่และย่าของแฮร์รี่ไม่มีลูกจนพวกเขาเกษียณ พวกเขามีเจมส์เป็นลูกชายเพียงคนเดียว และมีชีวิตอยู่จนกระทั่งเจมส์แต่งงานกับลิลลี่ พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นแฮร์รี่หลานชายคนเดียวของเขา

ต้องขอบคุณปู่และย่าที่ทำให้แฮร์รี่รวยมาก พวกเขาสร้างบริษัทผลิตภัณฑ์ทำผมที่เฮอร์ไมโอนี่ใช้ในงานคริสต์มาส หลังจากที่พวกเขาเกษียณ พวกเขาขายบริษัทและได้ผลกำไรมหาศาล

3. ฉากต่อสู้กับโทรลล์เกือบถูกตัดออกทั้งหมด

บรรณาธิการเคยขอให้ เจ.เค. โรว์ลิง ตัดฉากที่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ต่อสู้กับโทรลล์ออก แต่ เจ.เค. ไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น เพราะตอนแรกทั้งสามคนเข้ากันไม่ได้เลย ซึ่งฉากนี้เป็นฉากสำคัญที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เริ่มสนิทกับแฮร์รี่และรอน

4. ล็อกฮาร์ตส่งของขวัญวาเลนไทน์ให้ตัวเอง

ศาสตราจารย์ล็อกฮาร์ตได้แสดงให้เห็นส่วนที่เลวร้ายที่สุดเมื่ออยู่ที่โรงเรียน เขาหลงตัวเองและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนรอบข้างสนใจในตัวเขา

ล็อกฮาร์ตถูกขังนาน 1 สัปดาห์ โทษฐานสลักชื่อตัวเองขนาดใหญ่บนสนามควิดดิช และเขายังฉายภาพใบหน้าของตัวเองบนท้องฟ้า ซึ่งดูแล้วเหมือนตรามารมากกว่า พร้อมทั้งส่งของขวัญวาเลนไทน์ 800 ชิ้นให้ตัวเอง ทำให้เช้าวันนั้นมีนกฮูกจำนวนมากในห้องโถงใหญ่จนมื้อเช้าต้องหยุดลง เนื่องจากมีขนและมูลของนกฮูกบนอาหารมากจนเกินไป

5. ครุกแชงก์เป็นแมวที่มีตัวตนอยู่จริง

เจ. เค. โรว์ลิงยอมรับว่าเธอไม่ชอบแมวเหมือนแฮกริด และเธอแพ้ขนแมว แต่เมื่อเธอทำงานในลอนดอน เธอมักจะไปทานอาหารเย็นที่ร้านกาแฟ ซึ่งเธอมักจะเห็นแมวสีส้มขนฟูตัวใหญ่ และมีใบหน้าแบนเหมือนไปชนกำแพงมา มันดูหยิ่งและไม่ยอมให้เธอเลี้ยง เธอจึงตัดสินใจใช้คาแรคเตอร์ของแมวตัวนี้เป็นต้นแบบของครุกแชงก์

6. ซิเรียสในร่างเท้าปุยเกือบมีเจ้าของ

ในภาค 4 ซิเรียสต้องหลบซ่อนตัวเป็นสุนัขในชื่อเท้าปุย ตอนแรกเจ. เค. ตั้งใจจะให้เท้าปุยอยู่กับแม่มดเฒ่าที่มีนิสัยประหลาด แต่เธอรักสุนัขและช่วยเหลือเลี้ยงดูสุนัขหลายตัวจนทำให้มีปัญหากับเพื่อนบ้านเพราะเสียงเห่าของสุนัขอยู่เสมอ แต่บรรณาธิการขอให้ เจ. เค. ตัดเธอออกเพราะเธอไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่อง และเอาเท้าปุยไปอยู่ในถ้ำแทน

7. เนวิลล์กับลูน่าเลิกกัน

แฟน ๆ หลายคนมั่นใจว่าหลังจบการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ เนวิลล์และลูน่าจะลงเอยกัน แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเรียนจบ พวกเขาก็เลิกรากัน ต่อมาเนวิลล์แต่งงานกับแฮนนาห์ อับบอต ที่ต่อมาเธอได้เป็นเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วที่มีชื่อเสียง

8. รถเมล์อัศวินราตรีเกือบจะไม่ถูกสร้างขึ้น

รถเมล์อัศวินราตรีเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ค่อนข้างทันสมัยในโลกของผู้วิเศษ เป็นรูปแบบการขนส่งที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยสำหรับพ่อมดที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือทุพพลภาพในเวลานั้น จริง ๆ แล้วมีข้อเสนอเกิดขึ้นมามากมาย เช่น ไม้กวาดพ่วงข้างรับจ้าง หรือกระเช้าขนส่งที่ห้อยไว้ใต้เธสตรอล ซึ่งกระทรวงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเหล่านี้ ดังนั้นรัฐมนตรีจึงตัดสินใจอัพเกรดสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลในปี 1865 จากนั้นรถเมล์อัศวินราตรีก็เริ่มวิ่งให้บริการบนท้องถนนตั้งแต่นั้นมา

9. อัมบริดจ์ถูกลงโทษ

โดโรเลส อัมบริดจ์ เป็นหนึ่งในตัวละครที่น่ารังเกียจและมีคนเกลียดมากที่สุด แฟน ๆ หลายคนหวังว่าเธอจะถูกลงโทษ หลังจากการล่มสลายของลอร์ดโวลเดอมอร์ โดโรเลส อัมบริดจ์ถูกนำตัวขึ้นศาลและถูกตัดสินว่ามีความผิด

10. แฮกริดไม่เคยแต่งงาน

ความเป็นไปได้ในการหาภรรยาให้แฮกริดนั้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมียักษ์และลูกครึ่งยักษ์เหลืออยู่น้อยมาก แฮกริดมีความสุขที่ได้พบกับมาดามมักซีม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไปกันไม่รอดเพราะมาดามมักซีมไม่เหมาะกับแฮกริด
อย่างไรก็ตามแฮกริดยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนจบ เนื่องจากเจ.เค. ได้ร่างบทสุดท้ายเอาไว้ตั้งแต่ตอนเขียนเล่มแรกแล้วว่า ให้แฮกริดเป็นคนอุ้มแฮร์รี่ออกจากป่าในตอนสุดท้าย

11. แฮร์รี่เอารูปของสเนปไปไว้ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่

รูปภาพของสเนปไม่ได้ถูกแขวนไว้ในห้องของอาจารย์ใหญ่ร่วมกับอาจารย์ใหญ่คนก่อน ๆ เพราะคนส่วนใหญ่ในปราสาทคิดว่าเขาเป็นผู้เสพความตาย แต่สุดท้ายแฮร์รี่ยืนกรานว่าจะแขวนรูปของสเนปไว้ข้างรูปภาพของดัมเบิลดอร์

12. ลูกชายของดัดลีย์เกือบจะได้เป็นพ่อมด

ตอนแรกเจ.เค. ตั้งใจว่าจะให้แฮร์รี่และดัดลีย์พบกันในบทส่งท้ายที่ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ เพราะลูกชายของดัดลีย์อาจกลายเป็นพ่อมดได้ แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจว่าเขาไม่น่าจะมียีนพ่อมดหลงเหลืออยู่เมื่อมาเจอกับยีนของลุงเวอร์นอน

ที่มา : brightside.me | เรียบเรียงโดย เพชรมายา